วันนี้ (27 มกราคม) พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน, ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรครวมไทยสร้างชาติ ฐานร่วมกันเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์
พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ต้นปี 2566 เริ่มมีหนังสือร้องเรียนบัตรสนเท่ห์ไปหาตัวผู้เสียหาย จนเมื่อช่วงปลายปี 2566 เริ่มมีข้อมูลรับแจ้งมาและมีการไปคุยเพื่อไปเรียกรับผลประโยชน์ ทำให้มีพยานหลักฐานพอสมควร
พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวต่ออีกว่า วันที่ 4 มกราคม 2567 ผู้กล่าวหามาแจ้งความให้ดำเนินคดี และตำรวจก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนขอศาลออกหมายจับ และนำไปสู่การจับกุมเมื่อวานนี้ (26 มกราคม) โดยตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนว่ากลุ่มผู้ถูกกล่าวหามีการวางแผนมาตั้งแต่ต้นปี 2566 หรือไม่
ในรายละเอียดความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนและการเรียกรับเงิน ขณะนี้สามารถบอกได้เพียงว่าทั้ง 3 คนไปร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์ เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานที่เห็นความสัมพันธ์กันจนนำไปสู่การขอหมายจับ ทั้งพยานหลักฐานเส้นเงิน คลิปเสียง รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ ด้วย และตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผล
พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทั้ง 3 คน และยังไม่ขอให้รายละเอียดอะไรมาก โดยจะขอกลับไปทำคำชี้แจงโดยละเอียดส่งให้ภายหลัง ซึ่งตามหลักการจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน
ส่วนที่ศรีสุวรรณระบุว่า มีการโยนเงิน 5 แสนบาททิ้ง เนื่องมาจากเห็นว่ามีใครไม่รู้นำเงินมาแขวนไว้ และให้ภรรยานำมาให้ดู เมื่อไม่ใช่เงินตนเองก็ปัดทิ้งนั้น พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะให้การอะไรก็ได้ แต่ตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ที่สุด และเบื้องต้นมั่นใจว่าพยานหลักฐานแน่นหนาและค่อนข้างสมบูรณ์ โดยจะใช้ความยุติธรรมในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม และยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนภรรยาของศรีสุวรรณที่ระบุว่าเป็นคนทิ้งเงิน 5 แสนบาทนั้นจะโดนข้อหาด้วยหรือไม่ พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีความผิดด้วยหรือไม่ โดยจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนกรณีที่ เจ๋ง ดอกจิก แจ้งว่า ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งทางการเมืองแล้ว พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาก็ต้องทำคำให้การชี้แจงมา แล้วตำรวจก็ต้องไปตรวจสอบว่าลาออกแล้วจริงหรือไม่ และตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำให้การ ส่วนเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้วจะมีการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องก็เป็นขั้นตอนหลังจากนี้