นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักรัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และผู้ว่า สตง. เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ดำเนินการลงโทษสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ทั้ง 213 คน ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 244 และ มาตรา 245 บัญญัติไว้
นายศรีสุวรรณมองว่า พฤติกรรมและการกระทำของ สนช. ที่ให้ความเห็นชอบขยายเวลาการบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกไป 90 วัน เป็นการใช้อำนาจกระทบต่อกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ และส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ รวมถึงเป็นการใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ทำให้การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยความสุจริต
ซึ่ง สนช. ที่ปฏิบัติหน้าที่ยังได้รับเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนรวมหลายแสนบาท จากการใช้อำนาจหน้าที่ในการขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายนี้ ทำให้โยงถึงการใช้งบประมาณแผ่นดินโดยมิชอบ จึงเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ คตง.ในการตรวจสอบการใช้งบประมาณดังกล่าว
ทั้งนี้นายศรีสุวรรณยังกล่าวด้วยว่า การขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไป 90 วันนี้ คงเป็นเหตุผลอื่นไปไม่ได้ นอกจากการรับใบสั่งจากรัฐบาล พร้อมมองว่าการที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายออกมาระบุว่า การบังคับใช้กฎหมายสามารถเลื่อนออกไปได้นั้น ส่วนตัวมองว่าตามธรรมเนียมปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย เมื่อกฎหมายใดก็ตามมีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ ก็ให้มีผลในวันถัดไปทันที ดังนั้น การออกมาให้ข่าวลักษณะนี้ของนายวิษณุ จึงเป็นเหมือนเนติบริกรที่คอยทำงานให้รัฐบาลแบบไม่สนใจหลักกฎหมายเปลี่ยนแปลงขั้นตอนตามใจชอบ จึงขอให้นายวิษณุกลับไปศึกษากฎหมายให้ละเอียด