×

แค่เจเล่กับเบนโตะไม่พอ ‘ศรีนานาพร’ ส่งเจเล่ฟิตต์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ราคา 15 บาท เจาะตลาดพรีเมียมแมส

22.02.2024
  • LOADING...
ศรีนานาพร

แค่เจเล่กับเบนโตะคงไม่พอ เมื่อ ‘ศรีนานาพร’ เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์เจเล่ฟิตต์ ราคา 15 บาท เจาะตลาดพรีเมียมแมส เริ่มแรกหวังชิงส่วนแบ่งตลาดให้ได้แค่ 3% เสริมทัพพอร์ตโฟลิโอขนมและเครื่องดื่มที่กำลังเร่งทีมบุกตลาดอย่างหนัก ตั้งเป้าใหญ่อยากทำรายได้ให้ถึง 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2571

 

“เป้าหมายของศรีนานาพรเริ่มขยับขึ้นเรื่อยๆ จาก 1-2 ปีที่ผ่านมา เราประกาศว่าบริษัทตั้งเป้าจะปิดยอดขายให้ได้ 8 พันล้านบาทภายในปี 2026 กระทั่งในปี 2023 ที่ผ่านมารายได้รวมอยู่ที่ 6,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% ส่งสัญญาณให้เห็นว่า รายได้เราเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากการปรับกลยุทธ์การตลาด และการจะไปถึงเป้าหมายใหญ่ 1 หมื่นล้านบาทคงไม่ใช่เรื่องยาก” วิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง หรือ SNNP กล่าว

 

เรียกว่าในปีนี้มีความท้าทายอย่างมาก จากสถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ยังอยู่ในช่วงชะลอตัว นโยบายจากภาครัฐยังไม่ชัดเจนจะเห็นได้ชัดว่าตลาดต่างจังหวัดกำลังซื้อลดลงมากกว่าปีก่อน 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ดังนั้น บริษัทจึงเน้นพัฒนาสินค้าใหม่ในรูปแบบพรีเมียมมากภายใต้แบรนด์เดิม เพราะการสร้างแบรนด์ใหม่ต้องใช้เวลาและงบประมาณเพื่อสร้างการรับรู้สูงมาก และสิ่งที่ศรีนานาพรให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือ Consumer Research การพัฒนาสินค้าใหม่ตามเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภค 

 

หนึ่งในนั้นคือแบรนด์เจเล่ฟิตต์ ที่ใช้เวลาวิจัยและพัฒนามานานถึง 2 ปี เป็นครั้งแรกของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบเยลลี่รสผลไม้ ถูกพัฒนาเพื่อให้เหมาะกับคนแต่ละช่วงอายุที่แตกต่างกัน วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ราคาซองละ 15 บาท ถือว่าราคาเข้าถึงได้ง่าย 

 

ซึ่งประเมินแล้วว่าตลาดมีโอกาสและมีช่องว่างอีกมาก เห็นได้จากอุตสาหกรรมเสริมอาหารในไทยมีมูลค่ากว่า 8.7 หมื่นล้านบาท มีการเติบโต 10% ระยะแรกยังไม่หวังยอดขายมากนักเพราะต้องใช้เวลา แต่เราอยากได้ส่วนแบ่งแค่ 1-3% ของตลาดก็พอ

 

สำหรับทิศทางการเติบโตของบริษัทในปีนี้ เดินหน้าสร้างดันสินค้ากลุ่มขนมและเครื่องดื่มให้เติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้กลยุทธ์สร้างทีมขายให้แข็งแกร่ง และพัฒนาสินค้าและกำหนดราคาเข้าไปวางขายในแต่ละช่องทางแตกต่างกัน หากสังเกตจะเห็นว่าสินค้าของศรีนานาพร ไม่ว่าจะเป็นเบนโตะ ขนมขาไก่โลตัส จะมีหลากหลายราคา เริ่มต้นที่ 5 บาท เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค และที่สำคัญการวางสินค้าบนชั้นวางทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนัลเทรดจะต้องโดดเด่นและมองเห็นได้ชัด

 

ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งแบรนด์เจเล่และเบนโตะต้องพยายามรักษาความเป็นผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวในไทยมูลค่าอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท มีการเติบโตเฉลี่ย 3-5% ที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง แถมยังมาเจอปัญหากำลังซื้อที่ลดลง เราเชื่อว่ากลยุทธ์ข้างต้นจะช่วยให้สินค้าในพอร์ตบริษัทเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี 

 

ด้านตลาดต่างประเทศ อย่างเวียดนามมียอดขายเติบโต 60% เป็นสัญญาณที่ดีหลังจากปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตสินค้าขนมขบเคี้ยวภายใต้แบรนด์โลตัสและเบนโตะ ปัจจุบันสามารถเดินเครื่องผลิตสินค้าครบทุกไลน์การผลิต ซึ่งจะครอบคลุมการส่งออกไปยัง 35 ประเทศทั่วโลก โดยโรงงานในเวียดนามจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและทำให้มีความได้เปรียบทางต้นทุนการดำเนินงานและต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง

 

นอกจากเวียดนามแล้ว ปัจจุบันศรีนานาพรกระจายสินค้าไปในหลายประเทศ โดยยอดขายเราโตสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของ GDP ของแต่ละประเทศ และแผนงานระยะยาวเตรียมจะเข้าไปเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ เพิ่มขึ้น 

 

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 มีกำไรสุทธิ 636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือ 23% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 6,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 445  ล้านบาท หรือ 8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 5,604 ล้านบาท โดยในปี 2567 บริษัทประเมินว่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลัก

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X