วันนี้ (3 เมษายน) ที่อาคารรัฐสภา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งที่ 2 ว่า ส่วนไหนที่คิดว่าที่อภิปรายมีประโยชน์ก็จะจด ในส่วนไหนที่คิดว่าต้องให้ความกระจ่างก็จะออกมาตอบ ซึ่งการลงทุนในต่างชาติ การบินไปต่างประเทศ เป็นการสร้างโอกาสและกระตุ้นเศรษฐกิจ
“ไม่มีทางหรอกที่นายกฯ จะบินไปเหมือนแมลงวัน และเห็นฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ จ้องเล่นแต่การเมือง ทั้งๆ ที่รัฐบาลพยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ เพื่อประโยชน์พี่น้องประชาชน ทุจริตคอร์รัปชันเราไม่มี หากมีให้นำข้อมูลและหลักฐานมา เราพร้อมที่จะโต้แย้งและให้ความกระจ่าง ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชน” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า สัปดาห์ที่แล้วได้ให้เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และประธานผู้แทนการค้าไทย ชี้แจงผลสำเร็จการเดินทางไปต่างประเทศอย่างชัดเจน โดยในการติดตามต่อไปจะมีทูตและคณะทำงานแต่ละประเทศที่ตนไปเยี่ยมเยียนมาตามงานให้ และมีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการดึงดูดการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่การนำเม็ดเงินที่เข้ามาอย่างเดียว แต่ละอย่างที่เราเห็นเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การอัปสกิล รีสกิล การฝึกบัณฑิตจบใหม่ให้เข้ากับอุตสาหกรรมที่มีผลกำไรสูง ซึ่งจะต้องใส่ในข้อตกลงของการลงทุน เพื่อให้ได้รับการเทรน-ฝึกงานที่เหมาะสม ก้าวไปสู่โลกที่มีรายได้สูงขึ้น และกำไรสูงขึ้นด้วย
ส่วนที่บอกว่ายังไม่เห็นเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในตลาดจริงๆ นั้น นายกฯ กล่าวว่า ถ้าหากท่านทำงานจริงๆ คงรู้ การลงทุน 5 แสนล้านบาท ระยะเวลา 5-6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลที่แล้วทำมาเราก็มาสานต่อ และขอความกรุณา เพราะต้องใช้เวลา ซึ่งสัญญาณที่เราเห็นมาเป็นบวกๆ ตั้งแต่ตนเข้ารับตำแหน่งมา ไตรมาส 4 ต่างประเทศมีเจตจำนงมาลงทุนในไทยจำนวนเม็ดเงินที่มากกว่าปีก่อน ซึ่งมีตัวเลขชัดเจนพิสูจน์ได้ ตัวเลขเงินลงทุน 5.58 แสนล้านบาท ที่สมาชิกสงสัยเป็นตัวเลขที่ยื่นมาแล้วและเป็นตัวเลขจริง มีอีกหลายบริษัทกำลังยื่นเรื่องเข้ามา เป็นเรื่องจริงที่จับต้องได้ ขอให้อดใจ เชื่อว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะเห็นเงินลงทุนเข้ามาในประเทศไทยอย่างมหาศาล ซึ่งตนใช้คำว่า สึนามิแห่งการลงทุน ขอให้ท่านมั่นใจ และตนก็มั่นใจ
ส่วนที่บอกว่านายกฯ ไปขายการลงทุนให้กับนักลงทุนต่างประเทศ แล้วบอกว่าเศรษฐกิจวิกฤต นายกฯ กล่าวว่า เรื่องที่เราไปโฆษณากับเรื่องที่เศรษฐกิจวิกฤตเป็นคนละเรื่องกัน แต่เรื่องที่เราไม่ต้องโต้เถียงกัน คือเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยต้องเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเกิดท่านไม่เชื่อตนก็ขอให้เชื่อในศักยภาพประเทศ ซึ่งยังมีศักยภาพอีกมาก การออกไปเชื้อเชิญ ออกไปลงทุนถือเป็นเรื่องสำคัญ
“ที่ท่านบอกมาว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง ผมคิดว่าไม่จริง เพราะการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของผม ผมมั่นใจ ผมจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่แก้จนให้กับพี่น้องประชาชน แต่ผมขอฝากไว้ว่า ท่านอย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงงแล้วกัน วันหนึ่งก็จะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันหนึ่งก็มีข่าวว่าจะขอร่วมรัฐบาล กลัวพี่น้องประชาชนจะงงมากกว่า” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า การว่างงานของบัณฑิตที่จบใหม่ดีขึ้นตามที่ชี้แจง ไม่ได้หมายความว่าเราทำหน้าที่ของเราเสร็จแล้ว แต่เชื่อว่าเรามาในทิศทางที่ดี และพยายามทำต่อไป มั่นใจว่าแรงงานไทยจะดีขึ้น
ส่วนเรื่องของยางพารา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ข้อมูลไปแล้วอย่างครบถ้วน แต่ตนขอเสริมว่ารัฐบาลที่แล้ว ขนาดปราบยางเถื่อนราคายางยังไม่ขึ้น ตนไม่แน่ใจว่าท่านไปปราบที่ไหน แต่ขอชี้แจงว่าวิธีการปราบปรามของตนไม่ได้คุยแค่ศุลกากร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่หารือกับฝ่ายความมั่นคง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารบก มีการทำงานอย่างใกล้ชิด ฉะนั้นเรามั่นใจว่าการปราบยางเถื่อนมีผลชัดเจน หากเป็นประเทศผู้นำส่งออกยางและมีการประกาศยางเถื่อนชัดเจน ผู้ซื้อจะมีความมั่นใจในรัฐบาล จะทำให้ราคายางขึ้นด้วย ซึ่งไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นเพราะรัฐบาลนี้ทำงานอย่างบูรณาการร่วมกันกับทุกฝ่าย ยืนยันว่าจะทำต่อไป และขอบคุณสำหรับคำแนะนำ พร้อมยืนยันด้วยว่าเป็นรัฐบาลตัวจริงเสียงจริง รัฐบาลเพื่อประชาชน