วันนี้ (1 มกราคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
โดยนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์หลังเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชฯ ว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานพรให้มีความสุข โดยท่านสอบถามเรื่องบ้านเมืองที่เป็นห่วงว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่
ส่วนความคาดหวังในปีงูใหญ่ หรือที่หลายคนมองว่าเป็นปีมังกรทองนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะต้องดูแลทั้ง 3 สถาบัน ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่จะต้องดูให้ทุกมิติ ไม่ใช่แต่เรื่องเศรษฐกิจหรือปากท้องเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูในเรื่องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างอากาศบริสุทธิ์ การประกอบอาชีพ เพศสภาพ เป็นต้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งที่ตั้งใจไว้ก็ยังเหมือนเดิมคือการแก้ไขปัญหาประชาชน อะไรทำได้ก็ทำก่อน เช่น เรื่องการปรับโครงสร้าง การแก้ไขและพัฒนาในหลายเรื่องซึ่งถือว่าเป็นภารกิจที่เยอะและใหญ่ ส่วนปี 2567 ขอใช้คำว่าทำงานหนักเหมือนเดิมดีกว่า เพราะเท่าที่ทำมาทุกคนก็ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว รัฐมนตรีทุกคนที่มาจากทุกพรรคก็ทำงานอย่างเต็มที่
องครักษ์ไม่จำเป็น งบประมาณปี 2567 ชี้แจงได้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม ว่าได้พูดคุยและประชุมกันไปแล้วตั้งแต่ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ และในช่วงปีใหม่ได้เจอกับรัฐมนตรีบางท่านก็ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ที่เสนอและอธิบาย ส่วนสภาผู้แทนราษฎรก็มีหน้าที่ตรวจสอบ
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าเวทีพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 จะกลายเป็นเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมเชื่อว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนรู้จักหน้าที่ของตัวเอง วันนี้เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณ เราก็ต้องพูดกันถึงเรื่องงบประมาณ แต่ถ้ามีข้อกังขาอะไรที่ไม่ชัดเจนเราก็จะพยายามชี้แจงอย่างเต็มที่ เพื่อชี้แจงให้ท่านสมาชิกสภาทุกท่านผ่านไปยังประชาชนทุกคน”
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนจะเป็นผู้พูดเปิด และอ่านให้ฟังว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ฉบับนี้มีอะไรบ้าง ซึ่งเข้าใจว่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ยืนยันว่าเตรียมตัวพร้อม และตนไม่เคยทราบในเรื่องการตบทรัพย์ในที่ประชุมรัฐสภา แต่ทราบว่าทุกท่านเองก็มีศักดิ์ศรี เชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรับได้ ทุกท่านรู้หน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกำชับ
เมื่อถามต่อว่า จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์ตัวนายกฯ หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงไม่มีหรอกครับ ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองและชี้แจงกันไป เพราะสภาเองก็มีหน้าที่ในการสอบถามด้วยความเป็นห่วง หน้าที่ของเราในฐานะผู้บริหารก็ต้องชี้แจง
ฤกษ์ดีนอนทำเนียบได้ตั้งแต่ 7 มกราคม
เศรษฐากล่าวถึงความชัดเจนในการนอนพักค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ฤกษ์ให้นอนได้ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมเป็นต้นไป แต่หนแรกอาจจะมีฟันหลอบ้าง หมายความว่าบางวันอาจไม่ได้ ก็ต้องดูกันนิดหนึ่ง และในวันที่ 7 มกราคม นอนไม่ได้ เพราะในวันที่ 8 มกราคม มีภารกิจลงพื้นที่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด”
‘กฤษฎีกา’ ยังไม่ส่งเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตให้รัฐบาล
ส่วนความคืบหน้าภายหลังรัฐบาลส่งหนังสือไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดูรายละเอียดในเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เศรษฐากล่าวว่า จะต้องรอเปิดทำการสัปดาห์หน้าจึงจะทราบ และคงไม่มีการเร่งรัดอะไร เนื่องจากไม่สามารถก้าวก่ายได้