วันนี้ (23 กุมภาพันธ์) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุถึงกรณีที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวตอบโต้หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหาในมาตรา 157 และมาตรา 149 ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง แต่เป็นประเด็นการกระทำผิดกฎหมายที่ต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด รัฐบาลนี้ยึดตามหลักการทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหากมีข่าวออกไปก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ถ้ามีข่าวว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เข้าไปมีส่วนพัวพันเรื่องที่ผิดกฎหมาย ความไว้วางใจของประชาชนลดน้อยลงไป
เศรษฐากล่าวว่า อยากให้พิสูจน์โดยเร็วหรือยึดกฎหมายเป็นหลัก โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่ายที่ถูกกล่าวโทษด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว คงทราบว่าอะไรควรทำหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การที่ผู้รักษากฎหมายทำผิดกฎหมายเสียเอง นายกรัฐมนตรีสวนกลับทันทีว่า “ยังไม่ผิดกฎหมาย ส่วนการใช้พื้นที่สื่อในการตอบโต้ แต่ถ้าถามผม ผมก็ไม่อยากให้ทำ”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะถือโอกาสกวาดขยะเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากมีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น ไม่ไว้หน้าอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ชมภาคเหนือแก้ปัญหายาเสพติด-สินค้าเถื่อนดีเยี่ยม
เศรษฐายังกล่าวถึงกรณีที่เชิญ พล.ต.ท. นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 หารือประเด็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดวานนี้ (22 กุมภาพันธ์) ที่รัฐสภา ว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ก็บอกไปว่า พื้นที่ภาคเหนือเรามีการจัดการปัญหาภาพรวมได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าเถื่อน เรื่องยาเสพติด หรือปัญหาการเผาที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 ต่างๆ เหล่านี้ ภาคเหนือถือว่าทำได้ดีมาก ถือว่ามีการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงฝ่ายศุลกากรเองก็ดี
ปัญหาพวกลักลอบเข้าทางเมืองกาญจน์ ยังทำงานไม่ดีพอ
ส่วนที่พบมีการกระทำผิดกฎหมาย สินค้าเถื่อน ยาเสพติด และจุดความร้อนก็ไปอยู่ที่เมืองกาญจนบุรีมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ต้องคุยอย่างตรงไปตรงมาว่ายังทำงานไม่ดีพอ และตนก็ได้พูดคุยกับ พล.อ. เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ท่านก็เข้าใจและเร่งลงพื้นที่เข้มงวดกวดขันเรื่องนี้ ซึ่งหากไม่ดีขึ้น ตนจะลงไปดูปัญหาเอง เพราะถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ วานนี้ที่ไปรัฐสภาก็ได้เจอ สส. ในพื้นที่ ก็ได้กำชับว่าให้เข้มงวดมากขึ้น ขอให้ลงพื้นที่มากขึ้น เพื่อถามไถ่ทุกข์สุขของประชาชน และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นธรรมกับหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เจ้าหน้าที่ต้องทำงานเชิงรุกหรือไม่ เพราะเข้มงวดอีกทาง ผู้กระทำความผิดก็จะเข้ามาอีกทางหนึ่ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ถูกต้องครับ เราต้องทำงานเชิงรุก ตอนนี้ได้สั่งการไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดระนอง เพราะไม่ใช่ปิดทางกาญจนบุรีก็ไปโผล่ที่ระนองอีก”
