วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีโพสต์ถึง ดนุชา พิชยนันท์ เลขาสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นด้วยที่ควรจะมีการปรับลดดอกเบี้ย หลังสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแถลง GDP ไตรมาส 4 ปี 2566 เติบโตได้เพียง 1.7% และตลอดทั้งปี 2566 เติบโตเพียง 1.9% ว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับดนุชา แต่ตนทราบมาก่อนแล้ว เพราะดนุชาได้มารายงานตนแล้วก่อนที่จะมีการแถลงข่าว แต่ตนก็ให้เกียรติสภาพัฒน์เป็นผู้แถลงข่าวเมื่อวานนี้ (19 กุมภาพันธ์) วันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยหลังตนได้โพสต์ X (ทวิตเตอร์) ไปเมื่อคืนนี้
เศรษฐากล่าวอีกว่า ตนเองไม่เคยสั่งท่านเลขาสภาพัฒน์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของความอิสระของหน่วยงานอิสระไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตนเองไม่มีอำนาจในการไปสั่ง จึงอยากจะฝากข้อคิดว่าการมีอิสระไม่ได้หมายความว่าจะไม่คำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องหรือความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
ส่วนที่มีการออกมาโพสต์ อยากให้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) การเร่งด่วนเพื่อพิจารณาลดดอกเบี้ยอยากจะให้ประชุมเมื่อใด เศรษฐากล่าวว่า ตนเองไม่ได้ดูที่ความอยากหรือความเป็นไปได้ว่าเป็นอย่างไร เพราะเชื่อว่าเรามีข้อมูลใหม่จากสภาพัฒน์มาแล้ว เข้าใจว่าการประชุมจะเกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนเมษายน ตนเองคิดว่าอีกตั้ง 2 เดือน ก็อยากจะรบกวน อ้อนวอน วิงวอน จะใช้คำอะไรก็ตาม ก็ลองพิจารณาดูอีกทีก็แล้วกัน
ยิ่งลักษณ์กลับไทยเป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถึงกรณีกระแสข่าวดีลลับหาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประสงค์กลับประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าตั้งแต่ที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมนั้น ทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย
ยังไม่ปรับ ครม. – ยังไม่คุมกลาโหม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ในอนาคตนายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ที่จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมควบหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับ ครม. วันนี้ทุกคนเร่งที่จะทำผลงานออกมา แต่ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า หลังจากที่ได้เข้าพบ ผบ.เหล่าทัพ นายกรัฐมนตรี มีความสนใจที่จะคุมทหารด้วยตัวเองหรือไม่ เศรษฐายิ้ม พร้อมตอบว่า ตนเองเจอคนทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยไม่ได้มีนัยอะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคณะรัฐมนตรี ไม่อนุญาตให้มีวาระจรในการประชุมคณะรัฐมนตรี เศรษฐาขยายความว่า เนื่องจากมีขั้นตอนการทำงานและมีวาระในแต่ละวันจำนวนมากอยู่แล้ว การที่เราต้องการพิจารณาเรื่องต่างๆ อย่างรอบคอบ ทางคณะรัฐมนตรีควรที่จะต้องให้ความสำคัญ หากมีวาระจรเข้ามาจำนวนมาก การตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อความถูกต้อง ความโปร่งใส และความมีธรรมาภิบาลสูงอาจด้อยลงไปได้ ซึ่งการประชุมในวันนี้ไม่มีวาระจรเลย แต่ขอยืนยันว่าหากมีเรื่องเร่งด่วนสามารถเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ได้
ส่งวิปรัฐบาล-พม. ศึกษาร่างกฎหมายรับรองเพศสภาพ
นอกจากนี้ เศรษฐายังเปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอีกว่า ได้ขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดการใช้ถ้อยคำเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ความเท่าเทียม ความหลากหลายทางเพศ และชื่อตำแหน่ง เพื่อให้เกียรติและศักดิ์ศรีคนทุกกลุ่ม โดยไม่เป็นการลดทอนคุณค่าของเพศสภาพ เพราะเราอยู่ในสังคมที่มีความหลากหลาย คำพูดด้อยค่าเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยมอบหมายให้วิปรัฐบาลไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ ขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เร่งเสนอกฎหมายต่อ ครม. และสภาผู้แทนราษฎร
