วันนี้ (14 มิถุนายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ได้พูดคุยกับทีมกฎหมายกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญให้ส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในคดีที่ 40 สว. ยื่นร้องจากการแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ว่า มีการส่งรายชื่อพยานเพิ่มเติม แต่ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญก่อนแล้วจึงจะตอบ เกรงว่าจะเป็นการก้าวล่วง ซึ่งจะไต่สวนเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
เมื่อถามว่า ตอนนี้เกิดกระแสข่าวว่าจะมีการยุบสภา และนายกรัฐมนตรีจะชิงลาออกก่อนที่ศาลจะตัดสินคดีนี้ เศรษฐากล่าวว่า “ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยคิดด้วยครับ ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะยุบสภา ทุกอย่างให้เดินหน้าไปตามกระบวนการ และจะไม่มีการใช้วิธีพิสดารในการหนี อย่างที่ผมเรียน เรามาในฝ่ายบริหาร หากฝ่ายตุลาการหรือฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อข้องใจ หน้าที่ผมก็ต้องเสนอ น้อมรับในคำตัดสิน”
เมื่อถามว่า สถานะของท่านนายกรัฐมนตรีเหมือนเป็นกันชนระหว่างขั้วอนุรักษนิยมและขั้วก้าวไกล ทำให้ท่านลำบากใจหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ตำแหน่งนี้ก็ลำบากทุกเรื่อง แต่เราเอาปัญหาของประชาชนเป็นหลัก อย่าไปมองเรื่องความขัดแย้งว่าตนเป็นกันชนหรือเป็นตัวช่วยหรืออะไรเลยดีกว่า ถ้ามีปัญหาก็ต้องตอบกันไป หากมีข้อคิดเห็นไม่ตรงกันก็พยายามชี้แจง
ทำงานกับพรรคพลังประชารัฐได้ ไร้ปัญหา
เมื่อถามว่า วันนี้ได้เจอกับ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น เศรษฐากล่าวว่า ตนก็คุยกับ พล.ต.อ. พัชรวาท ดี ท่านยังคงเป็นห่วงว่าทำงานหนักเกินไป และตนก็ไม่ได้เป็นคนพาดพิงถึง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ และไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วย
ก่อนที่เศรษฐาจะหันไปหา พล.ต.อ. พัชรวาท และกล่าวว่า ตนก็ให้เกียรติท่าน (พล.อ. ประวิตร) ในฐานะที่ท่านเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก เคยเจอกันหนเดียวในงาน ตนก็สวัสดี ไม่มีเรื่องอื่น ไม่มีอะไรเลย ยืนยันได้