วานนี้ (20 กันยายน) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือร่วมกับ จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ถึงแนวทางขยายความร่วมมือด้านกีฬาระหว่างไทยและอาเซียนกับ FIFA ในอนาคต
โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพและมีพัฒนาการด้านฟุตบอลต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณ FIFA สำหรับความร่วมมือในการสนับสนุนให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้กีฬาฟุตบอลขั้นพื้นฐาน (Grassroots)
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ FIFA ขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพด้านฟุตบอล พร้อมย้ำว่าอาเซียนมีความพร้อมและจะมุ่งพัฒนาศักยภาพต่อไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกร่วมกันของอาเซียนในปี 2034
ขณะเดียวกันประธาน FIFA เห็นพ้องที่จะสานต่อความร่วมมือระหว่างไทย – อาเซียน – FIFA เพื่อขยายโอกาสและทำให้ฟุตบอลเป็นกีฬาสำหรับทุกคน พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสามัญของ FIFA สมัยที่ 74 (74th FIFA Congress) ช่วงเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นที่ไทย โดยจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 211 ประเทศทั่วโลก
ด้านนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือถึงการประชุมสามัญของ FIFA สมัยที่ 74 ว่า จะมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน ถือเป็นการประชุมที่ใหญ่มาก เมื่อเทียบจากจำนวนคนถือว่าใหญ่กว่าการประชุม UN ซึ่งคนที่เข้ามาจะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
“ไม่ต้องพูดถึงที่คนทั่วโลก ฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนอยากเล่น อยากดู มีมูลค่าทางพาณิชย์มโหฬาร ทาง FIFA ให้ความสำคัญกับระดับรากหญ้า จากเดิมเคยให้เงิน 2.5 แสนดอลลาร์ต่อปี เป็น 2 ล้านดอลลาร์ต่อปี ทั้งที่รายได้ FIFA ไม่ได้มีมากขึ้นเยอะ” เศรษฐากล่าว
เศรษฐากล่าวว่า “ผมขอบคุณที่ FIFA ขยายประเทศที่จะเข้าไปให้ผ่านการคัดเลือก World Cup ได้จากทวีปเอเชีย 4.5 ทีม เป็น 8.5 ทีม ทำให้ไทยเรามีความหวังยิ่งขึ้น ซึ่งความหวังนี้ไม่ใช่ความหวังแค่ไทยหรืออาเซียนเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก แต่มีนัยลึกกว่านั้น คือฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นโดยเยาวชนไทยเยอะ เรามีโอกาสเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกสูงขึ้น เป็นความฝันและแรงบันดาลใจที่ทำให้เด็กเรามีแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่มาเล่นกีฬามากขึ้น ไม่ไปหมกมุ่นกับยาเสพติดหรืออบายมุขเรื่องอื่นๆ และไม่ปฏิเสธว่าเรื่องฟุตบอลเป็นเรื่องที่ผมสนใจมากเป็นพิเศษ”
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยด้วยว่า ดีใจมากที่ได้เจอกับประธาน FIFA ซึ่งเป็นคนมาขอพบ แสดงว่าประเทศไทยแม้อันดับไม่ได้สูงขนาดนั้นแต่มีคนเล่น มีจำนวนประชากรที่ให้ความสนใจกีฬาฟุตบอลเยอะ จึงขอขอบคุณประธาน FIFA ที่ให้ความสนใจไทย
ส่วนโอกาสที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้เสนอไปแล้วว่าอาเซียนจะขอเป็นเจ้าภาพในปี 2034 แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา เขาเป็นองค์กรกลาง เราต้องพยายามจับมือให้แน่น พัฒนารากหญ้าให้ได้ เพื่อให้อันดับของอาเซียนสูงขึ้น หากพัฒนาที่รากหญ้าได้ ขีดการแข่งขันจะดีขึ้นต่อไปได้
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยด้วยว่า ในสัปดาห์หน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการคลัง จะแถลงข่าวโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 ประเภทกีฬา จะนำมาทำใหม่ ขอให้อดใจ จะมีการแถลง รอฟังรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่าน ถือเป็นเรื่องดีๆ