×

นายกฯ ถกปราบ ยาเสพติด ด่วน จี้ สธ. เขียนร่างข้อบังคับให้ชัด 1 เม็ดก็ผิดหากพฤติกรรมชัด

โดย THE STANDARD TEAM
08.05.2024
  • LOADING...
เศรษฐา ทวีสิน เร่งแก้ไขปัญหา ยาเสพติด

วันนี้ (8 พฤษภาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือภายในห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ยาเสพติด อาทิ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานความมั่นคง

 

สมศักดิ์พูดในที่ประชุมว่า เสนอให้ พ.ต.อ. ทวี ไปพูดคุยกับประธานศาลฎีกา เพื่อให้ศาลเป็นผู้กำหนดในคำพิพากษาให้ชัดเจนว่าจะต้องมีคำสั่งให้ชัดเจนว่าจะต้องบำบัด ซึ่งหากไม่มีคำสั่งบำบัดแล้วกระทำผิดซ้ำ ถูกจับอีกครั้ง ก็จะต้องถูกจำคุก

 

พ.ต.อ. ทวี ก็เห็นด้วยว่าจะต้องทำให้ชัดเจน แต่ในเรื่องดังกล่าวเป็นส่วนของคดีใหม่ แต่ตอนนี้ปัญหาคือคดีเดิม ผู้ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้วจำนวนกว่า 3 แสนคดีจะทำอย่างไร เพราะชาวบ้านได้รับผลกระทบ จะต้องดึงออกมาให้เร็วที่สุด เช่น อาจใช้วิธีการคุมประพฤติ ให้กรมคุมประพฤติส่งหนังสือไปยังศาล เพื่อขอให้มีคำสั่งนำตัวไปบำบัด ส่งต่อให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยดูแล 45 วัน ก็เชื่อว่าจะเห็นผล

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า ขอให้สมศักดิ์และ พ.ต.อ. ทวี ไปคุยกับประธานศาลฎีกาให้เรียบร้อย พร้อมแนะว่าให้ใช้สถานที่ราชการหรือค่ายทหารเป็นสถานที่บำบัดผู้ติดยาเสพติด โดยอาจนำร่องในค่ายทหารสักหนึ่งแห่ง และให้คณะกรรมการบำบัดยาเสพติดเข้าไปดูแลด้วย และเมื่อไปแล้ว 3-6 เดือนได้ผลอย่างไร ก็จะนำไปเป็นตัวอย่างให้กับค่ายทหารอื่น

 

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการสอบถามถึงความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขในการรองรับผู้ติดยาเสพติดจำนวนกว่า 2 แสนคน ที่กระทรวงยุติธรรมจะต้องส่งต่อไปให้ดูแลประมาณ 45 วัน ในอีก 4 เดือนข้างหน้า

 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า อธิบายว่าการรักษาผู้ติดยาเสพติดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกคือการรักษาทางการแพทย์ โดยมีแพทย์เป็นผู้ดูแล ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยจิตเวช จะถูกส่งไปอยู่ในชุมชน ซึ่งได้รับการดูแลร่วมกับฝ่ายปกครอง ดังนั้นในส่วนของกระทรวงจึงไม่มีความกังวล และรับประกันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่

 

นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าปัญหายาเสพติดถือว่ามีความสำคัญที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไข เพราะเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติ เยาวชนติดยาเสพติดจำนวนมาก ขอให้ทุกคนทำงานให้หนักขึ้น ทั้งการปราบปราม ยึดทรัพย์ และบำบัดให้ทั่วถึง ขอให้มีความคืบหน้าให้ชัดเจนภายใน 90 วัน

 

ในช่วงท้ายของการประชุม อนุทินได้ขอหารือนายกรัฐมนตรีหลังรับทราบปัญหาขบวนการขนย้ายยาเสพติด ซึ่งไม่ได้พบแค่เพียงบริเวณแนวชายแดนเท่านั้น จึงต้องการเครื่องสแกนยาเสพติดขนาดใหญ่ขณะที่รถขับผ่าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ เวลาที่รถขับผ่านจะได้ตรวจได้เลย ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการสะท้อนปัญหาจากในพื้นที่

 

ขณะที่สมศักดิ์ได้กล่าวว่า สำหรับการจับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ปปง. มีเส้นทางการเงินที่สามารถตรวจสอบได้ จึงต้องขอให้ ปปง. ช่วยในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีจึงได้เน้นย้ำให้มีการตรวจสอบและรายงานความคืบหน้ากลับมา เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ

 

นายกฯ จี้ 1 เม็ดก็ผิดหากพฤติกรรมชัด

 

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมด่วนเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงยุติธรรมว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุขระบุบังคับการควบคุมยาเสพติดให้ชัดเจนว่า 1 เม็ดก็ผิดหากพฤติกรรมไปในทางผู้เสพหรือผู้ค้าด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการตีความกันอีก พร้อมย้ำว่าเราจะดูพฤติกรรมเป็นหลักไม่ได้ดูเพียงแค่จำนวนเม็ด รวมถึงกำชับทุกหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเราปฏิบัติมาโดยตลอดอยู่แล้ว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าต้องพิจารณาจากพฤติกรรมด้วยหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมากำหนดว่า 5 เม็ดอาจเป็นผู้ป่วย และให้ดูพฤติกรรม อนุทินกล่าวว่า วันนี้ไปกำหนดว่าเกิน 5 เม็ดเป็นผู้ค้า แต่มีช่องเลี่ยง ฉะนั้นต้องอยู่ที่การตีความและดูประวัติ เพราะหากเจอ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดก็ถือว่าผิดแล้ว

 

นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ใช้รูปแบบสำหรับการบำบัดร่วมมือกัน เช่น การใช้ค่ายทหารหรือฝ่ายปกครองตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ หากมีผู้ต้องเข้ารับการบำบัดเยอะจะต้องร่วมมือกับทางกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตนเองจากที่เคยอยู่กระทรวงสาธารณสุขมา 4 ปี มองว่าสามารถตั้งโรงพยาบาลสนามได้ ฉะนั้นอาจจะใช้รูปแบบนี้ แต่อาจไม่เข้มข้นเท่าสมัยโควิด เพราะตอนนี้เป็นเรื่องการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติด

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าการพิจารณาจากพฤติกรรมผู้เสพกับผู้ค้า ฝ่ายปกครองอย่างผู้ใหญ่บ้านต้องไปช่วยตำรวจหรือไม่ อนุทินกล่าวว่าแน่นอน เพราะตอนนี้ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งตอนนี้ก็ทำงานกันเป็นทีม และดำเนินการมาโดยตลอด แต่อย่างที่ว่าตอนนี้เราดำเนินการจับกุมมากขึ้น ทางฝ่ายผู้ลำเลียงก็มีการเพิ่มปริมาณเพราะหวังว่าจะรอด แต่ถึงอย่างไรหากปริมาณเยอะก็ไม่ค่อยรอด ฉะนั้นขอให้เชื่อถือความสามารถของฝ่ายปราบปราม และต้องเฉียบขาด ขณะนี้ความสูญเสียส่วนใหญ่อยู่ที่ผู้ค้ายาเสพติด

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการปราบปรามยาเสพติดในยุคสมัยนี้จะประสบความสำเร็จเหมือนรัฐบาลไทยรักไทยหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ต้องดูว่าเอาอะไรเป็นตัววัด ซึ่งหากประกาศเป็นศัตรูกับยาเสพติด ตรงนี้ก็ชัดเจนว่าไม่แตกต่างจากอดีต แต่การดำเนินการต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก จะทำตามใจชอบหรือมิตรรักแฟนเพลงมากไปไม่ได้ทั้งที่อยากทำใจจะขาด เพราะมันมีกฎหมายอยู่ ดังนั้นเราทำตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการไล่จับมาโดยตลอดและติดตามถึงแหล่ง ไม่พ้นความสามารถเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปได้

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X