วันนี้ (14 ธันวาคม) เวลา 09.00 น. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น (The Commemorative Summit for the 50th Year of ASEAN-Japan Friendship and Cooperation)
ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน และผู้นำประเทศญี่ปุ่น ประชุมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น
โดยนายกรัฐมนตรีจะผลักดันบทบาทความร่วมมือของไทยในการสนับสนุนความเชื่อมโยงในภูมิภาค-เน้นการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงนำเสนอโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ของไทย นำเสนอแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเติบโตสีเขียว ย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยเรื่องการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์และความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านนโยบายพลังงานสะอาด การเงินสีเขียว ความร่วมมือกับญี่ปุ่นในการพัฒนาระบบนิเวศ ยานยนต์ไฟฟ้า
รวมถึงส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ด้วยการส่งเสริม E-Commerce การไหลของข้อมูลข้ามพรมแดน (Cross-Border Data Flows) การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection) AI Blockchain และเกษตรอัจฉริยะ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
นายกรัฐมนตรีจะย้ำความพร้อมของระบบสุขภาพในไทย สนับสนุนความร่วมมือเพื่อเตรียมรับสังคมสูงอายุ และยกระดับประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งรวมทั้งนำเสนอความพร้อมของไทยในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมด้วย Soft Power / Creative Industries
ในโอกาสนี้ จะเป็นโอกาสให้นายกรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น พบหารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (Minister of Economy, Trade and Industry: METI) เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี
นอกจากนั้น จะได้พบหารือเพื่อความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกของญี่ปุ่นในทุกสาขาสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ (บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ทั้ง 7 บริษัท Toyota, Honda, Mazda, Nissan, Suzuki, Mitsubishi และ Isuzu) อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลการเกษตร และธุรกิจการค้า
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในช่วงค่ำวันที่ 18 ธันวาคม 2566