วันนี้ (6 กันยายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 ในหัวข้อ ‘การปราบปรามทุจริตและเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาล’
เศรษฐากล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพูดคุยกับทุกท่านในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 ในวันนี้ การปราบปรามการทุจริตและเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาลเป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญอย่างยิ่งของรัฐบาล และเป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องสนับสนุนและปฏิบัติตามอย่างไม่มีข้อยกเว้น ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติมาเป็นอันดับที่ 101 ของโลก ในด้านของดัชนีการรับรู้การทุจริต เป็นอันดับ 4 ของอาเซียน (ตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม) ซึ่งหมายความว่าเรามีสิ่งที่จะต้องพัฒนากันอีกมาก
ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันนั้น นอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อภาครัฐแล้ว ยังทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอย และมีผลต่อเนื่องไปสู่ปัญหาการขับเคลื่อน GDP ของประเทศอีกด้วย เพื่อที่จะขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้หมดไป รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยมีนโยบายทั้งด้านการใช้หลักนิติธรรม หรือ Rule of Law ที่เข้มแข็ง และนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในกระบวนการต่างๆ ของภาครัฐ ทำให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งจะช่วยพี่น้องประชาชนให้ได้ทั้งความโปร่งใส และการให้บริการของภาครัฐที่เร็วยิ่งขึ้น
หลักนิติธรรมที่มั่นคงแข็งแรงมาจากระบบการเขียนกฎหมายและการออกกฎหมายที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ และประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยกันกำหนดทิศทางและอนาคตของตัวเองและประเทศ
เรามีแผนที่จะปรับปรุงกฎหมายเพื่อลดกระบวนการและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เปลี่ยนรัฐอุปสรรคให้เป็นรัฐสนับสนุน และป้องกันการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ที่เรียกรับเงินสินบนจากประชาชน
นอกจากกฎหมายที่เข้มแข็งแล้ว รัฐบาลของเราจะให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและการลงโทษที่เฉียบขาดและครอบคลุม เจ้าหน้าที่รัฐในหลายๆ ตำแหน่งจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และในระดับสูงจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อแสดงความโปร่งใส และเปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ การมีกฎหมายที่เข้มแข็ง เน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และการบังคับใช้กฎหมายที่โปร่งใส ยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้นี้ จะส่งเสริมความแข็งแกร่งและสร้างรากฐานของสังคมที่เคารพในกฎหมายร่วมกัน และขจัดการคอร์รัปชันให้หมดไปจากประเทศไทย
“ผมเชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐบาลเพื่อไทยนี้ ปัญหาการคอร์รัปชันจะลดลง ความโปร่งใสและเป็นธรรมจะเพิ่มมากขึ้น และตามมาด้วยความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบที่ดีต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” เศรษฐากล่าว