กลายเป็นละครขึ้นแท่นลูกรักของช่อง One31 อีกหนึ่งเรื่อง สำหรับ คุณชาย ที่หลังจากออกอากาศมาได้ 16 ตอน และใกล้จะถึงตอนจบเต็มทีในวันจันทร์หน้านี้ (28 พฤศจิกายน) ก็สามารถกวาดอันดับ 1 บนเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยได้เกือบทุกสัปดาห์ แถมด้วยเทรนด์โลกอีก 3 อีพี จนถึงปัจจุบันคุณชายมีเรตติ้งเฉลี่ยทางโทรทัศน์ราวๆ 1.74 และมีผู้ชมทางออนไลน์ร่วมแสนคน
มันคงไม่ผิดนักถ้าจะพูดว่าละครเรื่องนี้สามารถทลายกำแพงความชอบและความเชื่อของคนดูละครได้อย่างดี เพราะก่อนหน้านี้เราคงไม่คิดว่าละครที่ตัวหลักเป็น LGBTQIA+ จะสามารถเรียกความสนใจจากผู้ชมทั่วไปได้มากขนาดนี้
คุณชาย เป็นเรื่องราวของ เทียน (ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ) ทายาทที่ต้องเข้ารับตำแหน่งผู้นำสมาคม 5 มังกร ต่อจาก เจ้าสัวซ่ง (แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) พ่อของเขา เจ้าสัวซ่งมีภรรยาทั้งหมด 3 คน คือ ลี่ (ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์) แม่ของเทียน เมียใหญ่หรือนายแม่ของตระกูลที่สุขุมลุ่มลึกจนเดาทางได้ยาก, จันทร์ (เป้ย-ปานวาด เหมมณี) เมียรองขี้โวยวายตามสูตรตัวร้ายในละครไทย แม่ของ หยาง (ตงตง-กฤษกร กนกธร) และคนสุดท้ายคือเมียบ่าวอย่าง บัว (กิ๊ก-มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) ตัวละครที่อ่อนโยนอบอุ่นและถูกมอบหมายให้เป็นนักเอดดุเขตของเรื่องนี้
แม้ภายนอกเทียนจะดูเป็นคุณชายที่เพียบพร้อม เก่งทั้งในด้านการค้าและการจัดการคนงานภายในเรือน แต่จุดอ่อนของเขาก็คือเพศวิถีที่เรียกกันว่าต้วนซิ่ว (คำสแลงที่หมายถึงชายรักชาย) ด้วยบริบทของสังคม ณ ขณะนั้น ความเป็นปิตาธิปไตยที่เหนียวแน่นในครอบครัว รวมถึงความเล่นใหญ่ของนายแม่ที่ต้องการปกปิดฐานะต้วนซิ่วของเทียนเอาไว้เพื่อผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งผู้นำตระกูลได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่แม่จันทร์ก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้หยางลูกของตัวเองขึ้นมาแย่งตำแหน่งของเทียน
เรื่องนี้จึงดำเนินไปด้วยกลวิธีการปกปิดความลับและความพยายามในการเปิดเผยความลับของสองแม่โดยมีเจ้าสัวซ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ในขณะที่ตัวละครเทียนซึ่งจริงๆ อาจจะไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนของเรื่องมากนักในช่วงแรก ก็เริ่มมีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆ จากความวุ่นวายที่แม่ๆ ก่อไว้
ในที่สุด เรื่องในตอนที่ 15 ก็เดินมาถึงจุดพีคสุดท้าย คือการที่เทียนตั้งใจเฉลยความลับของตัวเองที่ปกปิดไว้ออกมาให้คนทั้งตระกูลได้รู้ และแน่นอนว่ามันสร้างความวุ่นวายมหาศาลให้กับตระกูล แต่มันก็น่าจะเป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมหลายๆ คนเข้าใจถึงความรู้สึกของกลุ่ม LGBTQIA+ ที่ถูกกดทับได้มากขึ้น
“ผมไม่เคยต้องการความเห็นใจหรือต้องการความเข้าใจจากทุกคนเลย ผมแค่อยากเป็นตัวของตัวเอง ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ผมเลือก โดยที่ทุกคนให้เกียรติผม ไม่ต้องมาก ไม่ต้องน้อย แค่เท่าเทียมกับที่คนควรจะได้รับ”
เป็นบทพูดของเทียนที่เราชอบมากๆ จากอีพีนี้ แม้ว่าตัวคุณชายจะสอดแทรกบทพูดเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการกดทับทางเพศอยู่บ่อยครั้ง แต่คำพูดนี้ของเทียนเมื่อสื่อสารออกมาผ่านการแสดงของ ฟิล์ม ธนภัทร แล้ว ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดปนยินดีไปกับตัวละครได้จริงๆ และยังเป็นไดอะล็อกที่สื่อสารกับผู้ชมได้ดีโดยไม่รู้สึกติดขัดอีกด้วย
นอกจากเหตุการณ์วุ่นวายจากการเปิดเผยตัวตนของเทียนแล้ว ในอีพี 15 และ 16 เรื่องก็ดำเนินไปด้วยการต่อสู้ วิ่งหนี และแน่นอนว่าพระเอกอีกหนึ่งคนอย่างจิว (แจม-รชตะ หัมพานนท์) ที่ควรจะตายไปตั้งแต่ตอนที่แล้วก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยเทียนในตอนท้าย ถึงจะช่วยเทียนไม่สำเร็จแต่เขาก็ช่วยคนอื่นออกไปได้ พร้อมพาคนในตระกูลไปอยู่กับหมอฉี (ทนงศักดิ์ ศุภการ) หมอยามากฝีมือที่ควรตายไปตั้งแต่กลางๆ เรื่องด้วยซ้ำ
เรียกได้ว่าตอนท้ายของอีพี 15 และตอนต้นของอีพี 16 กลายเป็นการรวมตัวกันของคนที่ควรจะตาย แต่ฟื้นมาได้ด้วยความเก่งระดับเทพตามสูตรละครไทย ที่พระเอกห้ามตายและต้องมาตอนท้ายเรื่อง ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามุกอะไรแบบนี้ยังทำให้เรารู้สึกสนุกได้ทุกครั้ง ถึงจะสามารถเดาเนื้อเรื่องได้อยู่นิดหน่อยแล้วก็ตาม
ไม่ใช่แค่เรื่องในสองตอนที่เล่ามาเท่านั้น แต่เนื้อเรื่องในตอนก่อนหน้าก็มีหลายจุดที่เรารู้อยู่แล้วว่าเนื้อหาน่าจะเดินไปทางไหน จนเรียกได้ว่าคุณชายฝังสูตรสำเร็จละครไทยไว้เรื่อยๆ ซึ่งการวางสูตรสำเร็จที่ลื่นไหลของเนื้อหาก็ทำให้ละครเรื่องนี้สนุกและน่าติดตาม สามารถแฝงทัศนคติบางอย่างให้ผู้ชมได้อย่างไม่ติดขัด ทำให้ผู้ชมสามารถสนุกไปกับเรื่องนี้ได้ แม้ว่าตัวละครหลักจะไม่ใช่คู่หญิงชายแบบละครทั่วไป
นอกจากนี้ อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้คู่วายในคุณชายไม่ได้ถูกแอนตี้จากแฟนละคร ก็น่าจะเป็นเลิฟซีนในเรื่องที่ไม่ได้หวือหวา ไม่มากหรือน้อยจนเกินงาม ทั้งยังออกมาในรูปแบบที่ค่อนข้างละมุน และเกิดจากเหตุผลที่เข้าใจได้ ซึ่งความไม่หวือหวานี้ ก็ทำให้คนลดอคติจากคำว่า ‘ละครวาย’ ได้มากทีเดียว
แม้ว่าจะเหลืออีกหนึ่งตอน ก่อนจะได้ข้อสรุปของเรื่องราวในคุณชาย แต่สิ่งที่เราสามารถสรุปได้ ณ ตอนนี้ ก็คือละครเรื่องนี้สามารถพิสูจน์ให้หลายคนเห็นได้แล้วว่า คอนเทนต์วายสามารถประสบความสำเร็จในฐานะละครหลังข่าวได้โดยไม่จำเป็นต้องขายฉากเลิฟซีนที่ดุเดือด แค่จัดวางเนื้อหาให้สนุกน่าติดตาม ตรงจริตของผู้ชม และไม่สร้างความเข้าใจผิดให้สังคมก็พอ