หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ออกมาเผยว่า SpaceX จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนเกือบ 900 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.2 หมื่นล้านบาท ที่บริษัทได้รับเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยอ้างว่าบริการดาวเทียมของบริษัท ‘ยังเป็นเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนา’ และบริษัท ‘ล้มเหลวที่จะแสดงให้เห็นว่ามันสามารถให้บริการตามที่สัญญาไว้ได้’
คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ ได้จัดสรรเงินสำหรับบริการอินเทอร์เน็ต Starlink ของ SpaceX ในส่วนหนึ่งของโครงการเงินช่วยเหลือที่ ‘ใหญ่ที่สุด’ เท่าที่เคยมีมาของหน่วยงาน โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนในชนบทของสหรัฐฯ เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วกว่าเดิม โดย 3 ใน 5 ของคนในชนบทกล่าวว่า การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงยังคงเป็นปัญหาเร่งด่วน แต่นั่นจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก Starlink ของ ‘อีลอน มัสก์’ โครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่ถูกยกให้แข็งแกร่งที่สุด จะสามารถกอบกู้ระบบโทรคมนาคมในยูเครนได้หรือไม่?
- SpaceX เตรียมให้บริการ Starlink อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ‘เร็วๆ นี้’ แต่ชาวเกาหลีใต้สงสัย “เน็ตเราเร็วอยู่แล้วนะ”
“หลังจากทบทวนข้อกฎหมาย ข้อเทคนิค และนโยบายอย่างถี่ถ้วนแล้ว เราได้ตัดสินใจที่จะปฏิเสธคำร้องขอเหล่านี้” เจสสิกา โรเซนวอร์เซล ประธาน FCC กล่าวในแถลงการณ์ “ผู้บริโภคสมควรได้รับบริการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้และจับต้องได้ เราต้องทุ่มเงินช่วยเหลือที่หายากไปกับการใช้งานที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่เรากำลังก้าวสู่อนาคตของโลกดิจิทัลที่ต้องมีเครือข่ายที่ทรงพลังและรวดเร็วยิ่งขึ้น เราไม่สามารถจ่ายเงินสนับสนุนให้กับกิจการที่ไม่ได้ให้บริการความเร็วตามที่สัญญาไว้ได้”
FCC ยังตั้งข้อสังเกตกับข้อมูลที่ชี้ว่า ‘ความเร็วของ Starlink นั้นลดลง’ จากไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วถึงไตรมาสที่สองของปี 2022
ในตอนแรก การอนุญาตให้ SpaceX เข้าร่วมในโปรแกรมเงินช่วยเหลือนั้นเป็นเรื่องถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง บริษัทโทรคมนาคมดั้งเดิมและผู้สนับสนุนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบางรายกล่าวว่า เครือข่าย Starlink ของ SpaceX นั้นใหม่เกินไปและยังพิสูจน์ตัวเองไม่พอ โดยพื้นฐานแล้ว การให้เงินสนับสนุนแก่บริษัทนั้นถือเป็นการเดิมพันว่าบริการ Starlink จะทำงานตามที่สัญญาไว้หรือไม่
ทั้งนี้ โรเซนวอร์เซลกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายของ Starlink ก็เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลในการปฏิเสธ
“เทคโนโลยีของ Starlink มีสัญญาณที่สดใส” เธอกล่าว “แต่คำถามตรงหน้าเราตอนนี้ คือควรให้เงินสนับสนุนแก่เทคโนโลยีที่กำลังพัฒนา ที่กำหนดให้ผู้ใช้ต้องซื้อจานดาวเทียมมูลค่า 600 ดอลลาร์ กับทุนสนับสนุนที่มีมูลค่าเกือบ 900 ล้านดอลลาร์ในกองทุนสากลจนถึงปี 2032 หรือไม่”
FCC ประมาณการว่า ชาวอเมริกัน 1 ใน 15 คน หรือราว 21 ล้านคน ยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งตัวเลขจริงๆ อาจสูงกว่านั้นมาก และอาจเพิ่มเป็นสองเท่าของตัวเลขเดิม จากการศึกษาของเว็บไซต์ที่ติดตามผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอย่าง BroadbandNow
เงินทุนสนับสนุนของ FCC มูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ที่เรียกว่า Rural Digital Opportunity Fund นั้น ได้รับทุนจากค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากลูกค้าบริการอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ เป็นประจำอยู่แล้ว ไอเดียคือการดูดเงินทุนจากเขตเมืองที่มีสัญญาณที่สมบูรณ์ไปใช้ เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการขยายบริการอินเทอร์เน็ตไปยังพื้นที่ห่างไกล
อ้างอิง: