เมื่อ 2 ปีก่อน เจมส์ เอเบอร์ลิน ชาวอเมริกัน วัย 36 ปี ได้เผยความปรารถนาสุดท้ายไว้กับครอบครัวก่อนที่จะเสียชีวิตว่า อยากให้นำเอาเถ้ากระดูกของเขาส่งขึ้นไปอยู่บนอวกาศ จนท้ายที่สุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) ความฝันของเขาก็เป็นจริง หลังอัฐิของเขาและของคนอื่นๆ อีกนับร้อยได้ทะยานขึ้นห้วงอวกาศผ่านการโดยสารกระสวยอนุสรณ์จากบริษัท Elysium Space
ข้อมูลจากบริษัทผู้ให้บริการเปิดเผยว่า แต่ละครอบครัวต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500 เหรียญ หรือราว 81,780 บาท เพื่อนำเอาอัฐิของคนที่พวกเขารักขึ้นไปกับพ่วงจรวดอวกาศ Falcon 9 ของ SpaceX
Thomas Civeit ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Elysium Space กล่าวว่า เถ้ากระดูกของเจมส์และคนอื่นๆ ต่างถูกบรรจุอยู่ในลูกบาศก์ขนาด 4 นิ้ว ที่เรียกว่า Cubesat
สำหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกระสวยได้ทันทีตั้งแต่การเดินทางขึ้นและการโคจรรอบโลกเป็นเวลา 4 ปี ก่อนที่จะกลับลงมาบนโลกอีกครั้ง
เบฟเวอร์ลี เอเบอร์ลิง แม่ของเจมส์ให้ข้อมูลกับ CNN ว่า ตอนที่เขายังมีชีวิต เจมส์ชื่นชอบจรวดและดาวเทียมอย่างมาก และบอกอีกว่า หลายครั้งเขาใช้โอกาสเดินทางไปฐานทัพอากาศในแคลิฟอร์เนียเพื่อถ่ายภาพการปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศ
ภายหลังเจมส์เสียชีวิตได้ 1 เดือน ครอบครัวของเขาก็ทราบถึงภารกิจของบริษัท Elysium Space และได้ติดต่อไป แต่การดำเนินการใช้เวลานับ 2 ปี ก่อนที่พวกเขาจะได้รับเมลแจ้งว่าจะมีการส่งจรวดขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่กลับต้องเลื่อนออกไป ซึ่งทางครอบครัวเอเบอร์ลิงไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
“เรารู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้ทำตามคำขอสุดท้าย มันมีความหมายมากเหลือเกินสำหรับทั้งฉันและสามี” แม่ของเจมส์กล่าว “ฉันคิดว่าเจมส์ก็คงจะมีความสุขมากที่ได้เห็นว่ามันจะเกิดขึ้นจริงในที่สุด”
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ภารกิจแรกที่ทำขึ้นเพื่อส่งอัฐิของมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศ ในปี 2541 หลอดบรรจุเถ้ากระดูกของนักบินอวกาศอย่าง Eugene Shoemaker ได้ถูกนำไปที่ดวงจันทร์พร้อมกับภารกิจขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NASA)
นอกจากนี้เมื่อปี 2555 อัฐิของ James Doohan ผู้รับบท Scotty ในภาพยนตร์เลื่องชื่ออย่าง Star Trek ได้ถูกส่งไปพร้อมกับคนอื่นๆ อีก 320 คน ซึ่งในภารกิจนี้ก็มีอัฐิของนักบินอวกาศอย่าง Gordon Cooper ด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: