วันนี้ (1 ธันวาคม) เวลา 10.00 น. ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่
- จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด, เฉลิมพระเกียรติ, พระพรหม, อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช, ร่อนพิบูลย์, จุฬาภรณ์, ปากพนัง, พรหมคีรี, นบพิตำ, หัวไทร, เชียรใหญ่, พิปูน, สิชล, นาบอน และบางขัน รวม 79 ตำบล 545 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 51,081 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองท่าดีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- จังหวัดพัทลุง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง, ควนขนุน, ปากพะยูน, บางแก้ว, ป่าพะยอม, ป่าบอน, ตะโหมด, กงหรา และเขาชัยสน รวม 45 ตำบล 308 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 96,122 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน ปัจจุบันลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาระดับลดลง
- จังหวัดสตูล เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนโดน, อำเภอเมืองสตูล, ท่าแพ, มะนัง, และละงู รวม 10 ตำบล 43 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,604 ครัวเรือน ปัจจุบันแม่น้ำละงูระดับน้ำลดลง
- จังหวัดสงขลา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 16 อำเภอ ได้แก่ อำเภอระโนด, สะเดา, หาดใหญ่, สิงหนคร, เทพา, บางกล่ำ, สะบ้าย้อย, นาทวี, จะนะ, รัตนภูมิ, อำเภอเมืองสงขลา, นาหม่อม, กระแสสินธุ์, ควนเนียง, คลองหอยโข่ง และสทิงพระ รวม 123 ตำบล 910 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 186,858 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 5 คน ปัจจุบันลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาระดับน้ำลดลง
- จังหวัดปัตตานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมายอ, ทุ่งยางแดง, หนองจิก, แม่ลาน, ไม้แก่น, โคกโพธิ์, ยะรัง, ยะหริ่ง, อำเภอเมืองปัตตานี, สายบุรี, กะพ้อ และปะนาเระ รวม 116 ตำบล 651 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 144,702 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 คน ปัจจุบันแม่น้ำปัตตานีระดับน้ำลดลง
- จังหวัดยะลา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบันนังสตา, อำเภอเมืองยะลา, ยะหา, รามัน, กาบัง, เบตง, ธารโต และกรงปินัง รวม 58 ตำบล 358 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,168 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน ปัจจุบันแม่น้ำสายบุรีระดับน้ำลดลง
- จังหวัดนราธิวาส เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบาเจาะ, แว้ง, รือเสาะ, เจาะไอร้อง, สุคิริน, ยี่งอ, ระแงะ, ตากใบ, จะแนะ, ศรีสาคร, สุไหงโก-ลก, สุไหงปาดี และอำเภอเมืองนราธิวาส รวม 77 ตำบล 572 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 92,851 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 คน ปัจจุบันแม่น้ำสายบุรีมีระดับน้ำลดลง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรสาธารณภัย เช่น เครื่องสูบน้ำ, รถสูบน้ำระยะไกล, รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย, รถผลิตน้ำดื่ม, รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย, เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 1 ลำ พร้อมด้วย The Guardian Team เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย
โดยมีการจัดตั้งศูนย์พักพิงและจุดอพยพในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส รวม 213 แห่ง และโรงครัว/รถประกอบอาหารในพื้นที่ประสบอุทกภัย 18 แห่ง นอกจากนี้ยังได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังและระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ข่าวสารสาธารณภัยได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT ทั้งระบบ iOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง LINE ‘ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784’ โดยเพิ่มเพื่อน LINE ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง