เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ (5 ตุลาคม) กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาได้ร่วมกันยิงขีปนาวุธ 4 ลูกไปทางชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธผ่านน่านฟ้าญี่ปุ่นวานนี้ (4 ตุลาคม) ขณะที่สหรัฐฯ ประณามการทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือว่าเป็นการกระทำที่อันตรายและประมาทอย่างมาก
โดยเมื่อวานนี้เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง (IRBM) ที่มีระยะทางไกลกว่า 4,000 กิโลเมตร และข้ามน่านฟ้าของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ขณะที่ทางการได้เปิดไซเรนเตือนให้ประชาชนหาที่หลบภัย
เสนาธิการร่วมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า กองทหารเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้ยิงขีปนาวุธลงทะเลเพื่อเป็นการตอบโต้ โดยเป็นขีปนาวุธ ATACMS แบบพื้นสู่พื้น (Surface-to-Surface Missile) จำนวน 4 ลูก ซึ่งสามารถพุ่งไปได้ไกลราว 320 กิโลเมตร
ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้ตอบโต้การยั่วยุจากเกาหลีเหนือแบบทันควัน ด้วยการฝึกซ้อมทิ้งระเบิดเมื่อวันอังคาร โดยใช้เครื่องบินขับไล่ F-15K ของเกาหลีใต้ยิงอาวุธชนิดจากอากาศสู่พื้น 2 ลูกเข้าใส่เป้าหมายจำลองทางตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี
จอห์น เคอร์บี ผู้ประสานงานด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ผ่านรายการ The Situation Room with Wolf Blitzer ว่า การซ้อมยิงขีปนาวุธครั้งนี้มีขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรของพวกเขา มีศักยภาพทางทหารที่พร้อมตอบโต้การยั่วยุจากเกาหลีเหนือได้ทุกเมื่อ
“เราต้องการเห็นคาบสมุทรเกาหลีที่ปลอดอาวุธนิวเคลียร์ แต่ คิมจองอึน ไม่มีท่าทีว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางนั้น แถมยังเห็นชัดเจนว่าเขากำลังทำสิ่งที่ตรงกันข้าม โดยเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ” เคอร์บีกล่าว
แฟ้มภาพ: South Korean Defense Ministry / Dong-A Daily via Getty Images
อ้างอิง: