ลีคีอิล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ลำดับที่สอง เปิดเผยระหว่างการประชุมรับมือการระบาดของโควิดในวันนี้ (31 สิงหาคม) ว่านักเดินทางขาเข้าทั้งหมด ทั้งชาวเกาหลีใต้และชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้าประเทศทั้งทางเครื่องบินและทางเรือ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิดเป็นลบแบบ PCR ก่อนเดินทาง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ (3 กันยายน)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้นหลังคณะกรรมการที่ปรึกษาโรคติดเชื้อของรัฐ แนะนำให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการบังคับตรวจเชื้อแบบ PCR ก่อนเดินทาง สำหรับนักเดินทางขาเข้าทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการควบคุมชายแดนล่าสุด ท่ามกลางความพยายามกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
ปัจจุบันผู้ที่จะเดินทางเข้าเกาหลีใต้ยังคงจำเป็นต้องแสดงผลตรวจเชื้อ PCR เป็นลบ ที่ตรวจภายใน 48 ชั่วโมง หรือผลตรวจจากชุดตรวจแบบรวดเร็ว (Rapid Antigen Test) ก่อนเดินทางเข้าประเทศ
โดยความเข้มงวดของมาตรการตรวจเชื้อดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และต่อต้าน ทั้งจากประชาชนและกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการบังคับตรวจเชื้อโควิด โดยอ้างว่าการตรวจเชื้อนั้นมีประสิทธิภาพต่ำและมักขาดความแม่นยำ อีกทั้งยังสร้างภาระค่าใช้จ่ายสำหรับนักเดินทาง พร้อมทั้งอ้างถึงหลายประเทศที่ยกเลิกมาตรการตรวจเชื้อก่อนเดินทางแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะยกเลิกมาตรการตรวจเชื้อก่อนเดินมาง แต่นักเดินทางยังคงจำเป็นต้องตรวจเชื้อแบบ PCR ภายใน 24 ชั่วโมงแรกที่เดินทางถึงเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็น ‘มาตรการขั้นต่ำ’ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่างๆ ที่มาจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญของเกาหลีใต้ เชื่อว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดในเกาหลีใต้ ณ ปัจจุบัน ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
โดยสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (Korea Disease Control and Prevention Agency: KDCA) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ อยู่ที่ 103,961 คน ลดลงจากเมื่อวานนี้ (30 สิงหาคม) ซึ่งมีจำนวน 115,638 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดอยู่ที่กว่า 23.2 ล้านคน
แฟ้มภาพ: Korea Centers for Disease Control and Prevention via Getty Images
อ้างอิง: