×

“พี่ไม่เคยคิดหนี” สรยุทธ เปิดใจหลังต้องใช้ชีวิตในคุก สุดห่วงแม่กำลังป่วยหนัก

31.08.2017
  • LOADING...

     เป็นเวลาเกือบ 2 คืนเต็มแล้ว ที่พิธีการรายการข่าวชื่อดัง ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ เมื่อถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาใ้ห้มีความผิดตามฟ้อง ในคดีไร่ส้ม หลังตกเป็นจำเลย เนื่องจากยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลา จำนวน 138 ล้านบาท

     ประชาชนจำนวนมาก แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกต่อชะตากรรมของเขา ผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดีย ทั้งสงสาร เห็นใจ ให้กำลังใจ และเห็นว่าทั้งหมดล้วนเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม จึงต้องรับโทษจากการกระทำที่ศาลตัดสินแล้ว

     ความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ‘น้องไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ’ ในฐานะพิธีกรร่วม ซึ่งได้ทำงานหน้าจอคู่กับสรยุทธ มาหลายปี ได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ หลังจากที่ได้เข้าเยี่ยม สรยุทธ ในวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ สรยุทธ ถูกตัดผมสั้นทรงนักเรียนแล้ว และมีความกังวลมากที่สุด คือเป็นห่วงสุขภาพคุณแม่ที่กำลังป่วยหนัก โดยมีข้อความที่สื่อสารผ่านห้องเยี่ยมผู้ต้องขัง ดังนี้

     “พี่ไม่เคยคิดหนี เพราะหนีไปก็ไม่จบ การหนีไม่ใช่การแก้ปัญหา หนีไปอยู่เมืองไทยคนก็จำหน้าพี่ได้หมด ไปอยู่เมืองนอกคนไทยที่อยู่เมืองนอกก็รู้จัก ถูกจับส่งตัวกลับอยู่ดี หรือชีวิตที่เหลือต้องมาซ่อนตัวตลอดชีวิต และอาจจะไม่ได้กลับมาเจอแม่”

     “อยู่ในเรือนจำยังมีจุดสิ้นสุด อยู่ในนี้ลำบาก แต่ต้องค่อยๆ ปรับตัว พี่ได้คิดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดแล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ถ้าต้องไปถึงจุดนั้น พี่ก็ต้องอยู่ให้ได้ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ไม่ต้องห่วง พี่อยู่ได้”

     ด้าน ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึง สรยุทธ เช่นเดียวกัน โดยมีข้อความผ่านข้อเขียน ‘สรยุทธ…ที่ผมรู้จัก’ ตอนหนึ่งว่า

     “ผมเชื่อว่าสรยุทธมีเพื่อนอยู่ไม่มาก แม้สรยุทธเป็นคนเข้มแข็ง มีตัวตนที่ชัดเจน แต่ยามที่เพื่อนตกต่ำถึงขนาดติดคุกติดตะรางจะไม่ไปเยี่ยมให้กำลังใจนั้น คนอย่างผมทำไม่ได้

     ยิ่งเคยผ่านร้อนผ่านหนาวเป็นนักโทษมาก่อน วันนี้ก็อดไม่ได้ที่จะไปเยี่ยม แนะนำการปรับตัวปรับใจที่ต้องบอกเสียก่อนว่าไม่ได้ทำกันง่ายๆ

     โลกเรานี้หมุนเวียนเปลี่ยนไป วันก่อนสรยุทธอ่านข่าวชูวิทย์ แต่วันนี้กลายเป็นชูวิทย์อ่านข่าวสรยุทธ”

     ขณะที่ทีมทนายความของสรยุทธ เปิดเผยว่า กำลังศึกษารายละเอียดของคำพิพากษา เพื่อดำเนินการยื่นฎีกา โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ในกรอบเวลา 30 วันตามกฎหมาย หลังจากนั้นก็จะทำการยื่นขอประกันตัวต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X