วานนี้ (14 กันยายน) อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงกรณีเพจ THACCA ที่อ้างว่าปี 2567 ได้รับงบประมาณเพียง 635 ล้านบาทนั้น ตนเองในฐานะ สส. ที่ติดตามนโยบายด้าน Soft Power มาโดยตลอด ขอชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เคยอภิปรายในสภา ในประเด็นดังนี้
- THACCA ยังไม่ได้จัดตั้งเป็นหน่วยงานส่วนราชการ ไม่มีงบประมาณเป็นของตัวเอง ไม่มีตัวตนอยู่จริง การดำเนินงานนั้นจะเป็นการกระจายเงินงบประมาณไปยังกระทรวงและกรมต่างๆ เพื่อดูแลโครงการ เช่น ด้านภาพยนตร์อยู่กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ด้านอาหารอยู่กับกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น
- งบประมาณปี 2567 จริงอยู่คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ได้งบ 635.54 ล้านบาท จากงบกลาง แต่นอกเหนือจากงบก้อนนั้น รัฐบาลยังของบเพิ่มเติมซอฟต์พาวเวอร์เพื่อจัดงานมหาสงกรานต์และอีเวนต์อีก 404.96 ล้านบาท และยังมีงบโครงการซอฟต์พาวเวอร์ในกระทรวงอื่นๆ อีก 2,188.96 ล้านบาท ดังนั้น งบซอฟต์พาวเวอร์ในปี 2567 มากกว่า 3,000 ล้านบาท
- ในปี 2568 คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ได้รับงบไป 2,318.42 ล้านบาท และยังมีการขอเพิ่มเติมในงบกลางอีก 1,336.72 ล้านบาท และยังมีงบโครงการซอฟต์พาวเวอร์ในกระทรวงอื่นๆ อีก 2,082.85 ล้านบาท ดังนั้นงบในปี 2568 รัฐบาลเพื่อไทยได้ใช้เงินในเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ไปกว่า 5,000 ล้านบาท หากรวมเงินงบประมาณสองปีแล้ว เกือบ 8,000 ล้านบาท
- โครงการเรือธงที่อยู่ภายในโครงการนี้ที่สำคัญคือ OFOS (one family one soft power) เป็นโครงการอบรมทักษะขนาดใหญ่ โดยใช้งบประมาณในปี 2567 ถึง 227 ล้านบาท และในปี 2568 ถึง 752 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีเป้าหมายอบรมคนไทย 20 ล้านคนให้ได้ภายใน 4 ปี แต่ปรากฏว่าภายในสองปีที่ผ่านมา ผลผลิตของผู้อบรมได้เพียง 20,355 คน เท่านั้น ดังเช่น โครงการ OFOS อาหาร ที่ตั้งเป้าหมายในปี 2567 ว่าจะมีเชฟอาหารไทยถึง 10,000 คนในปีนั้น แต่ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมฝึกอบรมเพียง 1,300 คนเท่านั้น
- ในปีงบประมาณ 2569 นั้น รัฐบาลเพื่อไทยได้ของบประมาณในแผนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์กว่า 3.9 พันล้านบาท แต่หลังจากการพ้นตำแหน่งของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์สิ้นสภาพไปด้วย แต่งบกว่า 3.9 พันล้านบาทที่ผ่านสภาฯ ไปแล้วนั้น ยังคงจะกระจายไปอยู่ตามหน่วยงานอื่นๆ เช่น เงินอุดหนุนภาพยนตร์ก็ยังคงอยู่กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เงินอบรมเชฟอาหารไทยอยู่กับ กระทรวงการอุดมศึกษา เป็นต้น
“จากนี้สิ่งที่สําคัญไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนๆ ผมในฐานะ สส.จะติดตามตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณก้อนนี้ ที่กระจายอยู่ตามกระทรวงต่างๆ ต่อไป” อภิสิทธิ์ระบุ
อ้างอิง: