ในที่สุดผลสอบวินัยร้ายแรงผู้เกี่ยวข้องกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ ผู้มีรายได้น้อย และคนไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า ‘คดีโกงเงินคนจน’ ก็ได้บทสรุปในล็อตแรกแล้ว
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เปิดเผยผลการสอบสวนระบุว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนกระทรวง พม. (อ.ก.พ.กระทรวง) ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวนี้ถึง 3 วัน และมีมติเห็นด้วยตามที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงผู้เกี่ยวข้อง 26 คน ที่มี นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบวินัยฯ เสนอบทลงโทษมา ในจำนวนนี้เป็นโทษไล่ออกจากราชการ 6 คน ปลดออกจากราชการ 5 คน และกันไว้เป็นพยาน 15 คน
นอกจากนี้พิจารณาในส่วนของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) เสนอเข้ามาพิจารณาเพิ่มอีก 5 คน ซึ่งทั้ง 5 คน มีโทษไล่ออกจากราชการ จึงรวมพิจารณาโทษทั้งหมด 31 คน โดยเป็นโทษไล่ออก 11 คน ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่จงใจดำเนินการให้เกิดการทุจริตก็มีโทษให้ไล่ออก
สำหรับผู้ที่ได้รับการพิจารณาโทษให้ไล่ออกจากราชการทั้ง 11 คน รวมถึง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม. ที่เสียชีวิตด้วย เพราะอยู่ในฐานความผิด แต่ถือว่าเสียชีวิตไปแล้วก็ต้องยุติคดีทางวินัย แต่ก็ยังเหลือความผิดทางละเมิดก็จะต้องพิจารณาต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ระบุว่า ผู้ที่ถูกลงโทษไล่ออกและปลดออกสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค. ได้ภายใน 30 วัน
พล.อ. อนันตพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการสอบสวนวินัยในระดับปฏิบัติการยังมีอีกประมาณสองร้อยกว่าคน ซึ่งส่วนนี้เป็นการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ท.) ร่วมกับกรม พส. ซึ่งจะต้องใช้เวลา เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องบุคลากรที่จะมาเป็นคณะกรรมการสอบสวน
ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่ถูกไล่ออกและปลดออกได้ เนื่องจากยังเป็นมติของที่ประชุม อ.ก.พ. กระทรวง จากนี้ฝ่ายกฎหมายจะสรุปและทำคำสั่งสำนวนโดยต้องหารือกับ ก.พ. คาดว่าไม่เกินวันที่ 6 ส.ค. จะสามารถประกาศคำสั่งอย่างเป็นทางการ และทำหนังสือเวียนให้ทุกกรมในกระทรวงรับทราบ
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า นายณรงค์ คงคำ อดีตรองปลัด พม. เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วนั้น พล.อ. อนันตพร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ก่อนหน้านี้ ก่อนที่ยังไม่มีมติออกมา ก็ยังต้องถือว่าเขาไม่มีความผิด และการสอบสวนนี้ไม่ใช่คดีทางอาญา เป็นการพิจารณาโทษทางวินัย