นายแพทย์สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความสำเร็จของระบบทันตกรรมประกันสังคมแบบ ‘ไม่ต้องสำรองจ่าย’ ว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา มียอดผู้ประกันตนใช้บริการแล้วกว่า 1,311,927.00 ครั้ง สำนักงานประกันสังคมจ่ายประโยชน์ทดแทนไปแล้ว 880,981,002.78 ล้านบาท
แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาสุขภาพในช่องปากของผู้ประกันตนรวมถึงความต้องการและความพึงพอใจในการเข้ารับบริการกรณีทันตกรรมของผู้ประกันตน
ปัจจุบันได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เพิ่มอัตราค่าบริการทางการแพทย์กรณีอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด ให้แก่ผู้ประกันตน เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นแต่ไม่เกิน 900 บาทต่อคนต่อปี (จากเดิม 600 บาทต่อคนต่อปี)
สำหรับการขอรับบริการ ทันตกรรมผู้ประกันตนสามารถใช้บัตรประชาชนเป็นหลักฐานเข้ารับบริการกรณีทันตกรรมกับสถานพยาบาล โดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงิน วงเงินไม่เกิน 900 บาทต่อคนต่อปี
ในปี 2561 มีจำนวนสถานพยาบาลเอกชน-คลินิกเข้าร่วมให้บริการจำนวน 1,352 แห่ง รวมถึงสถานพยาบาลรัฐทั่วประเทศ โดยสังเกตป้ายสติกเกอร์ที่ระบุว่า ‘สถานพยาบาลแห่งนี้ให้บริการผู้ประกันตนกรณีทันตกรรม ‘ทำฟัน’ ไม่ต้องสำรองจ่าย’
กรณีผู้ประกันตนเข้ารับบริการกรณีทันตกรรมในสถานพยาบาลที่ไม่ได้ทำความตกลงเรื่องการเบิกจ่าย ผู้ประกันตนสามารถนำหลักฐานประกอบด้วย ใบเสร็จรับเงิน ใบรับรองแพทย์ พร้อมสำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้ประกันตนมายื่นต่อสำนักงานประกันสังคมพื้นที่ จังหวัด สาขาทั่วประเทศ มายื่นขอรับประโยชน์ทดแทนตามกฎหมายประกันสังคมได้ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่เข้ารับบริการที่ระบุไว้ในใบรับรองแพทย์