×

เริ่ม 3 ทุ่มคืนนี้ โลกกีฬาจับมือบอยคอตโซเชียลมีเดีย 4 วัน เพื่อกดดันให้เจ้าของแพลตฟอร์มต่างๆ จัดระเบียบการเหยียดในโลกออนไลน์

30.04.2021
  • LOADING...
3-ทุ่มคืนนี้-โลกกีฬาจับมือบอยคอตโซเชียลมีเดีย

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นักเตะ รวมถึงองค์กรกีฬาระดับสากลต่างๆ จับมือกันแสดงจุดยืนต่อต้านพฤติกรรมการเหยียดและการโจมตีในรูปแบบต่างๆ บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย ด้วยการบอยคอตโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มเป็นเวลา 4 วัน เริ่มตั้งแต่เวลา 21.00 น. วันนี้ (30 เมษายน) ตามเวลาประเทศไทย 

 

โดยการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นจากหลายหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกีฬา เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้กับการเหยียดในโลกออนไลน์ เพื่อให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ มีการจัดระเบียบอย่างจริงจัง และมีบทลงโทษที่ชัดเจนต่อการเหยียดทั้งสีผิวและเพศในแพลตฟอร์มของพวกเขา 

 

โดยผู้ที่เข้าร่วมมีตั้งแต่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ข้ามไปถึงกีฬารักบี้ คริกเก็ต ที่เข้าร่วมบอยคอตโซเชียลมีเดียตั้งแต่วันศุกร์นี้ไปจนถึงวันจันทร์ 

 

“การบอยคอตนี้เป็นการแสดงความโกรธร่วมกันของทุกคน” ซานเจย์ บานดารี ประธานมูลนิธิต่อต้านการเหยียดที่มีชื่อว่า Kick It Out กล่าว 

 

“การที่พวกเขาถอดตัวเองออกจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ เป็นการแสดงจุดยืนให้กับผู้คนที่อยู่ในอำนาจ เราต้องการให้พวกเขาลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เราต้องการให้พวกคุณสร้างความเปลี่ยนแปลง” 

 

โดยผู้ที่เข้าร่วมบอยคอต ทั้ง Facebook, Twitter และ Instagram ประกอบไปด้วย 

 

  • ฟุตบอล: สโมสรจากพรีเมียร์ลีก, วีเมนส์ซูเปอร์ลีก, ลีกสูงสุดของสกอตแลนด์ ทั้งชายและหญิง รวมถึงสมาคมฟุตบอลอังกฤษ, สมาคมฟุตบอลสกอตแลนด์ สมาคมฟุตบอลเวลส์, สมาคมฟุตบอลไอร์แลนด์, ยูฟ่า และองค์กรอื่นๆ
  • คริกเก็ต: บอร์ดบริหารของอังกฤษและเวลส์ สมาคมต่างๆ ในคริกเก็ต
  • รักบี้: สมาคมรักบี้อังกฤษ, สมาคมรักบี้สกอตแลนด์ และสมาคมรักบี้เวลส์ ลีกรักบี้ในอังกฤษ และสมาคมนักกีฬารักบี้ 
  • องค์กร: Barclays ผู้สนับสนุนของพรีเมียร์ลีก, วีเมนส์ซูเปอร์ลีก, Adidas รวมถึง Sky Sports, BT Sport and Talksport
  • ลูอิส แฮมิลตัน, จอร์จ รัสเซลล์ สองนักแข่งจากศึกฟอร์มูลาวัน 

 

โดยสาเหตุที่พวกเขาตัดสินใจบอยคอตโซเชียลมีเดีย เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อนที่นักฟุตบอลหลายคนเข้าร่วมแคมเปญ #Enough ในการบอยคอตโซเชียลมีเดียเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อประท้วงต่อการเหยียดและการโจมตีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ 

 

แต่ที่ผ่านมานักกีฬาเกือบทุกชนิดต้องพบเจอกับปัญหาการเหยียดและการโจมตีในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จนทำให้สโมสรฟุตบอลบางแห่งต้องติดต่อทางตำรวจ เพื่อแจ้งเหตุการณ์ที่นักกีฬาโดนข่มขู่อย่างรุนแรง 

 

โดยจากการสอบสวนโดยสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ (PFA) พบว่า เกิดเหตุการณ์โจมตีทางโลกออนไลน์ถึง 56 ครั้งใน Twitter เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ซึ่งทาง PFA ได้รายงานไปยังเจ้าของแพลตฟอร์มต่างๆ แต่ปัจจุบัน 31 บัญชีจาก 56 บัญชีที่ถูกตรวจพบก็ยังมีสถานะใช้งานได้อยู่ในโลกออนไลน์ 

 

ส่วนการบอยคอตโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้ มีทั้งสโมสรสวอนซี ซิตี้, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ รวมถึงควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ได้ตัดสินใจถอดบัญชีพวกเขาออกจากโซเชียลมีเดียเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่ เธียร์รี อองรี อดีตศูนย์หน้าอาร์เซนอล ได้ถอดบัญชีของเขาออกจากโซเชียลมีเดียตั้งแต่เดือนมีนาคมเช่นเดียวกัน 

 

ขณะที่รัฐบาลอังกฤษก่อนหน้านี้ได้ยืนยันว่า จะลงโทษเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียด้วยค่าปรับมหาศาลหลักล้านปอนด์ หากเจ้าของเหล่านี้ไม่แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง 

 

ด้านเจ้าของแพลทฟอร์มต่างๆ ทาง Facebook ที่เป็นเจ้าของ Instagram ระบุว่า พวกเขาทุ่มเทพยายามแก้ไขปัญหามาตลอด 

 

โดย Instagram เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือที่จะให้ผู้ใช้งานสามารถคัดกรองข้อความเหยียดหรือข่มขู่ จากคนที่พวกเขาไม่ได้ติดตามในแพลตฟอร์มออกโดยอัตโนมัติ

 

ขณะที่ Twitter ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า “พวกเขาทุ่มเทที่จะทำให้การพูดคุยเรื่องฟุตบอลในพื้นที่บริการของพวกเขา ปลอดภัยสำหรับแฟนกีฬา นักเตะ และทุกคนที่เกี่ยวข้อง” 

 

ซึ่งทาง Twitter ได้เผยอีกว่า พวกเขาลบทวิตข้อความที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลไปแล้วกว่า 7,000 ครั้งในอังกฤษที่ละเมิดกฎกติกาการใช้งาน 

 

โดยข้อเรียกร้องของทางพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ระบุต่อผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียว่า  

 

  • ฟิลเตอร์ และบล็อกข้อความเหยียด ไม่ให้ถูกส่งหรือได้รับ 
  • ความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานในแพลตฟอร์ม และการป้องกันผู้ใช้งานด้วยระบบยืนยันตัวตนที่มีประสิทธิภาพ 
  • มีบทลงโทษที่บังคับใช้ได้ในโลกจริงจากการกระทำด้วยการเหยียดในโลกออนไลน์ เช่น หยุดการสมัครบัญชีใหม่หลังจากที่ถูกแบน 
  • ข้อความตักเตือนสำหรับผู้ใช้งานที่เขียนข้อความเหยียด หรือบังคับให้พวกเขาใส่ข้อมูลส่วนตัวหากต้องการที่จะส่งข้อความ 
  • แพลตฟอร์มต่างๆ จะต้องมีการทำงานที่รวดเร็วและโปร่งใส ในการรับมือกับข้อความเหยียดที่ถูกส่งหรือได้รับ 
  • มีการรายงานการทำงานของบริษัทโซเชียลมีเดีย ทั้งภายในองค์กรและภายนอก ในการจัดการกับการเหยียดในแพลตฟอร์มของพวกเขา

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising