SMU ปิดฉากการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลกลี กวน ยู (LKYGBPC) ครั้งที่ 12 ด้วยสถิติผู้สมัครจาก 1,200 มหาวิทยาลัยใน 91 ประเทศ คัดเหลือ 60 ทีมรอบชิง และได้ประกาศสองผู้ชนะ คือ ChemT Biotechnology (สิงคโปร์-สหรัฐฯ) และ Zhejiang Polar Code Technology (จีน-สหรัฐฯ) คว้าถ้วย Chancellor’s Cup ขณะที่สิงคโปร์ย้ำเป้าหมายระยะยาว-เร่งบทบาทศูนย์กลางนวัตกรรมด้วย AI ในการคัดกรองสตาร์ทอัพ (DueAI) และตัวเร่งเชิงพาณิชย์ Urban SustaInnovator (USI) เพื่อพาสตาร์ทอัพ Deep Tech ออกสู่ตลาดจริง
เวทีแข่งขันของ Deep Tech เพื่อความยั่งยืน ‘จากไอเดียสู่ตลาด’
การแข่งขัน LKYGBPC ครั้งที่ 12 จัดโดยสถาบันนวัตกรรมและผู้ประกอบการของมหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ (SMU IIE) ซึ่งปี 2568 จัดขึ้นไปแล้วระหว่าง 29 ก.ย. – 2 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยแบ่งโครงสร้างการแข่งขันเป็น 2 ประเภทชัดเจน
- Beta: สตาร์ทอัพยังไม่มีรายได้ (0 → 1)
- Infinity: สตาร์ทอัพมีรายได้แล้วจนถึงระดับ Series A (1 → ∞)
ปีนี้ ธีมชัดไปทาง Climate/Materials/Energy และ AI for Science สะท้อนทิศทาง ‘Deep Tech เพื่อความยั่งยืน’ ที่ลงทุนหนักทั่วโลก ผู้ชนะฝ่าคู่แข่งแกร่งจาก 60 ทีมรอบชิง และได้รับ
- Chancellor’s Cup for Beta Innovation: 237,500 ดอลลาร์สิงคโปร์
- Chancellor’s Cup for Infinity Impact: 287,500 ดอลลาร์สิงคโปร์
รวมทั้งสิทธิการเข้าถึงที่ปรึกษา VC และผู้บริหารระดับสูง เพื่อเร่งสู่เชิงพาณิชย์
ผู้ชนะในปีนี้ และแก่นเทคโนโลยี
- ChemT Biotechnology (สิงคโปร์-สหรัฐฯ) – ถ้วย Beta
แพลตฟอร์ม AI ออกแบบโมเลกุลขนาดเล็ก เพื่อ ‘ปรับพฤติกรรมเซลล์’ เพิ่มผลผลิตชีวกระบวนการ (bioprocess) และประสิทธิภาพของเซลล์ในอุตสาหกรรมชีวภาพ แนวคิด AI for Biomanufacturing นี้แก้โจทย์ที่นักวิทยาศาสตร์พยายามมานาน โดยย่นเวลาค้นพบจาก ‘หลายสิบปีเป็นไม่กี่รอบทดลอง’ เป้าหมายระยะใกล้คือ อัปเกรดผลิตภัณฑ์ เปิดเครื่องมือผลิตแอนติบอดี ขยายแพลตฟอร์ม virtual cell AI สู่ลูกค้า
- Zhejiang Polar Code Technology (จีน–สหรัฐฯ) – ถ้วย Infinity
โครงข่าย ไมโครกริดอัจฉริยะขับเคลื่อนด้วย AI ที่ทำให้ระบบพลังงานซึ่งมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนสูง ‘บริหารได้จริง’ ตั้งแต่การคาดการณ์ ออปทิไมซ์ บาลานซ์โหลด สตาร์ทอัพประกาศแผน ย้าย HQ สู่สิงคโปร์ เพื่อขยายเชิงพาณิชย์ระดับโลก
(หมายเหตุ: รุ่นนี้ยังมีสตาร์ทอัพมหาวิทยาลัยอีก 15 ทีมรับรางวัลพิเศษหลายสาขา ตั้งแต่วัสดุยั่งยืน (เช่น Indorama Ventures Future of Sustainable Materials Award) ไปจนถึง Global AI Initiative Award สะท้อน breadth ของดีปเทคที่ลงสนามจริง)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สิงคโปร์ย้ำบทบาท ‘ฮับนวัตกรรมโลก’
เฮง สวี เกียต ประธานมูลนิธิวิจัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NRF) ย้ำบทบาทสิงคโปร์ในฐานะ ศูนย์กลางนวัตกรรมและผู้ประกอบการระดับโลก โดย LKYGBPC ทำหน้าที่เป็น ‘ด่านหน้า’ ดึงดูดสตาร์ทอัพจากทุกทวีป และเป็นแพลตฟอร์มเรียนรู้ ลงมือจริง โดยนักศึกษาในมหาวิทยาลัย (SMU ระบุมีนิสิตกว่า 100 คน ร่วมขับเคลื่อนเบื้องหลัง ตั้งแต่โรดโชว์ถึงที่ปรึกษางานแข่ง)
ปีนี้ SMU ยังเปิดตัว DueAI™ Challenge ระบบ AI สำหรับคัดกรองและประเมินสตาร์ทอัพ (data-driven due diligence) ช่วยรวบรวมข้อมูลเร็วขึ้น ลดอคติ และ ‘เสริมแรงตัดสินใจมนุษย์’ ให้คมขึ้น เทรนด์นี้กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของ VC ทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อดีปเทคมีรอบเวลาวิจัยยาวและข้อมูลเชิงเทคนิคซับซ้อน
เป้าหมายระยะยาว จาก ‘ห้องแล็บสู่เมือง’ สู่ตลาดโลก
บนเวทีปิดงาน สิงคโปร์ชี้ ‘แผนขยายผล’ ชัดเจนคือ
- Urban SustaInnovator (USI) โปรแกรมเร่งการเติบโต Deep Tech ด้านเมืองยั่งยืน ที่เพิ่งเปิดตัว เป้าหมายคือ แปลงงานวิจัยเป็นโซลูชันเชิงพาณิชย์ ได้จริง พร้อมสร้าง ‘คณะกรรมการที่ปรึกษา Singapore Inc.’ รวมภาครัฐ–เอกชน เพื่อเร่งกำกับมาตรฐาน ทดสอบภาคสนาม และต่อท่ออุตสาหกรรม
- CSO Conversations – เวทีเชื่อม 30 บริษัทชั้นนำ ผู้นำความยั่งยืน ผู้กำหนดนโยบาย นักนวัตกรรมรุ่นใหม่ ให้คุย ‘โจทย์จริง’ ข้ามอุตสาหกรรม ตั้งแต่การเงินสีเขียวจนถึงโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน
SMU ระบุว่า ผู้เข้าร่วม LKYGBPC ทุกทีมจะได้รับช่องทางสมัครเข้า USI เพื่อพัฒนาทีม เทคโนโลยี และ go-to-market ต่อเนื่อง ขยายกลุ่มบุคลากรดีปเทค และ ‘ต่อท่อทักษะ’ ให้แรงงานได้สัมผัส best practices ระดับโลก
จากการที่ THE STANDARD WEALTH ได้เป็นหนึ่งในสื่อไทยที่เข้าร่วมสังเกตการณ์เวทีแข่งขันนี้ ตั้งแต่การประกาศชื่อผู้เข้ารอบ 60 ทีมสุดท้าย จนถึงวันประกาศชื่อผู้ชนะ ได้ข้อสรุปว่า Deep Tech กำลังกลายเป็นอุตสาหกรรมจริง เวทีแข่งขันปีนี้ ผู้ชนะไม่ใช่เพียงเดโม แต่คือ ‘ระบบพร้อมใช้งาน’ ใน ชีวการผลิต และ ไมโครกริดพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นคานงัดสำคัญของเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
‘นโยบาย – ทุน – แพลตฟอร์มครบวงจร’ สิงคโปร์กำลังวางพิมพ์เขียว ‘จากห้องแล็บสู่เมือง’ มีทั้งเวทีแข่ง, AI กลั่นกรองดีล, เวที CSO, และตัวเร่ง USI เพื่อย่นเวลาและเส้นทาง time-to-market
ผลจากแข่งขัน กำลังบอกนัยต่อผู้ประกอบการทั้งภูมิภาคว่า ทีมที่มี IP ชัด, พร็อกซีผลลัพธ์วัดได้ (เช่น kWh saved, yield boosted), และพร้อม pilot ในพื้นที่เมือง จะได้เปรียบในการเจาะตลาดอาเซียนผ่านสิงคโปร์