ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.สินมั่นคงประกันภัย หรือ SMK วันนี้ (16 กรกฎาคม) ปรับตัวลดลงทันทีที่เปิดการซื้อขายช่วงบ่าย โดยราคาหุ้นลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 35.25 บาท หรือลดลงไป 5.36% ก่อนรีบาวด์ขึ้นมาเล็กน้อย มาปิดตลาดที่ระดับ 36.25 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 2.68% มูลค่าการซื้อขาย 7.65 ล้านบาท
โดยในช่วงบ่ายวันนี้ สินมั่นคงประกันภัยแจ้งผู้ทำประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนา แบบ เจอ-จ่าย-จบ หรือ COVID 2 in 1 โดยระบุว่า ทางบริษัทต้องขออภัยลูกค้าเป็นอย่างสูงที่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกเลิกสัญญากรมธรรม์ แบบ เจอ-จ่าย-จบ และ 2 in 1 ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากภาวะการระบาดของโรคติดเชื้อโควิดที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องและมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงจนคาดเดาสถานการณ์ไม่ได้
โดยผู้ที่ทำประกันในแผนดังกล่าว สามารถสแกน QR Code ที่ส่วนท้ายของจดหมายเพื่อตรวจสอบจำนวนเงินส่วนต่างที่จะได้รับคืนและแจ้งข้อมูลการนำเงินคืนได้ ซึ่งทางบริษัทจะทำเรื่องคืนเงินภายใน 15 วัน นับจากกรมธรรม์มีผลสิ้นสุดความคุ้มครอง
ประกาศดังกล่าวทำให้เกิดกระแสไม่พอใจ จนเกิด #สินมั่นคง บนทวิตเตอร์ประเทศไทย เพื่อแสดงความไม่พอใจในบริการและไม่มั่นใจในพื้นฐานบริษัท
ขณะที่ สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า คปภ. ไม่เห็นด้วยกับการที่สินมั่นคงประกันภัยใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโควิด แบบ เจอ-จ่าย-จบ หรือ COVID 2 in 1 ตามแบบและข้อความ หมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนด ข้อ 2.4.3 และข้อ 2.5.1 กับผู้เอาประกัน เนื่องจากในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน ระบบประกันควรเข้ามาช่วยดูแลประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาทางสินมั่นคงฯ ไม่เคยแจ้งให้ คปภ. รับทราบมาก่อนว่าจะมีการบอกเลิก
.
ดังนั้น คปภ. จึงได้ติดต่อไปยังตัวแทนสินมั่นคงฯ เพื่อขอให้ยกเลิกการออกประกาศบอกเลิกการประกันภัยโควิดโดยด่วน เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนเหมือนเดิม แต่หากสินมั่นคงฯ ยังไม่ยอมทำตาม คปภ. ก็พร้อมยกระดับใช้แนวทางทางกฎหมายบังคับห้ามบอกเลิกประกันโควิดเพื่อให้คุ้มครองแก่ประชาชนต่อไป ซึ่งเป็นอำนาจของ คปภ. ในฐานะนายทะเบียน
กระทั่งล่าสุด คปภ. ได้ออกเป็นคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัยโควิดสำหรับบริษัทประกันวินาศภัย
โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า ตามที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปทั่วโลกและประเทศไทย โดยรัฐบาลได้มีมาตรการป้องกันและลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงอาจมีมาตรการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับโรคดังกล่าวในอนาคต เพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เอาประกันภัย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยและประชาชน รวมถึงเพื่อเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบธุรกิจประกันภัยโดยรวม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 29 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 นายทะเบียนจึงออกคำสั่งไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 คำสั่งนี้เรียกว่า ‘คำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย’
ข้อ 2 ในคำสั่งนี้
‘กรมธรรม์ประกันภัย COVID-19’ หมายความว่า กรมธรรม์ประกันภัย ข้อตกลงคุ้มครอง หรือเอกสารแนบท้าย ที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
‘บริษัท’ หมายความว่า บริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัย และหมายความรวมถึงสาขาของบริษัทประกันวินาศภัยต่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัย
ข้อ 3 ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท สำหรับกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่บริษัทได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนและกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่บริษัทได้ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัยก่อนวันที่มีคำสั่งนี้และยังคงมีผลใช้บังคับ เว้นแต่ปรากฏหลักฐานชัดเจนต่อบริษัทว่าผู้เอาประกันภัยได้กระทำการทุจริตหรือฉ้อฉลประกันภัยเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการประกันภัยนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สำหรับ SMK ดำเนินธุรกิจรับประกันวินาศภัย 4 ประเภท ได้แก่
- การประกันภัยทางรถยนต์
- การประกันอัคคีภัย
- การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
- การประกันภัยเบ็ดเตล็ด
ผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก ได้แก่
- บริษัท ดุษฎีสุรพจน์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 25.02%
- MINDO ASIA INVESTMENTS LIMITED ถือหุ้น 10.88%
- EUROCLEAR NOMINEES LIMITED ถือหุ้น 10.88%
- ศิวะพร ดุษฎีสุรพจน์ ถือหุ้น 8.58%
- เรืองวิทย์ ดุษฎีสุรพจน์ ถือหุ้น 7.49%