×

3 แบงก์ใหญ่เผย มีลูกหนี้รายย่อย-SMEs ลงทะเบียนเข้าโครงการพักชำระ 2 เดือนแล้วกว่า 1.6 แสนบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมเกือบ 1.5 แสนล้านบาท

28.07.2021
  • LOADING...
SMEs

เอกชัย เตชะวิริยะกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า หลังจากที่ธนาคารได้ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยพักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ยนาน 2 เดือน เพื่อลดภาระทางการเงินให้ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีและลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการจากมาตรการของทางการ โดยเริ่มเปิดให้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ข้อมูล ณ วันที่ 23 ก.ค. 64 ธนาคารได้ประมาณการจำนวนลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีและลูกค้าบุคคลที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,700 ราย คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือประมาณ 85,000 ล้านบาท

 

โดยแบ่งเป็นลูกค้าบุคคลที่ติดต่อขอเข้าร่วมผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร จำนวนประมาณ 1,500 ราย วงเงินช่วยเหลือประมาณ 5,000 ล้านบาท และธนาคารยังได้มีการสำรวจลูกค้า SMEs ที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเชิงรุกพบว่า มีลูกค้า SMEs ที่สนใจเข้าร่วมประมาณ 3,200 ราย คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือประมาณ 80,000 ล้านบาท

 

เอกชัยกล่าวอีกว่า จากการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ ธนาคารประเมินว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ปี 2564 เนื่องจากภาครัฐได้ยกระดับความเข้มงวดของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะครบกำหนดการล็อกดาวน์ 14 วัน แต่คาดว่ายังต้องเข้มงวดในการป้องกันการระบาดต่อไปอีกอย่างน้อย 1-2 เดือน

 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัย Krungthai Compass ของธนาคารได้ประเมินมูลค่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจจากมาตรการที่มีความเข้มงวดมากในช่วงไตรมาสที่ 3 ไว้ประมาณ 2.5-4 แสนล้านบาท ทำให้ GDP ปี 2564 อาจจะเติบโตได้เพียง 0.5-1.3% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของมาตรการภาครัฐ

 

เอกชัยกล่าวอีกว่า ธนาคารได้ติดตามสถานการณ์ของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิดและพร้อมจะออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ โดยปัจจุบันธนาคารได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบหลายมาตรการ ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ เช่น มาตรการการรับโอนทรัพย์เพื่อชำระหนี้ (Asset Warehousing) มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง (สินเชื่อฟื้นฟู) โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง 

 

รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือตามสถานการณ์และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย เช่น การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง การให้ระยะเวลาปลอดหนี้ (พักการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งจำนวนหรือบางส่วน) เพื่อให้กิจการมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ หรือลดอัตราผ่อนชำระหนี้

 

สำหรับผลกระทบต่อคุณภาพหนี้ ธนาคารยังประเมินว่า จะได้รับผลกระทบในวงจำกัด เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดชั้นหนี้ โดยธนาคารได้ติดตามผลกระทบและช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้

 

ณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 19-26 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้ากรุงศรี คอนซูมเมอร์ ที่ลงทะเบียนและได้รับการอนุมัติให้รับความช่วยเหลือในโครงการพักชำระหนี้ 2 เดือนแล้ว 4,811 บัญชี คิดเป็นยอดหนี้คงค้างจำนวน 284.75 ล้านบาท โดยลูกค้าที่มีบัญชีบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลกับกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซึ่งมีสถานะบัญชีปกติ และเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง สามารถลงทะเบียนรับพิจารณาความช่วยเหลือดังกล่าวผ่านทางศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ หรือแอปพลิเคชัน UChoose ได้จนถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2564 โดยจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี

 

ณญาณีกล่าวอีกว่า นอกจากมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2 รอบบัญชีแล้ว กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิดอื่นๆ อีก ได้แก่

 

มาตรการที่ 1: มาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้าทุกรายด้วยการลดยอดชำระขั้นต่ำต่อเดือน โดยผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต ลดยอดชำระขั้นต่ำจากเดิม 10% เหลือ 5% ขณะที่ผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล ลดยอดชำระขั้นต่ำจากเดิม 5% เหลือ 3% ตามรอบบัญชี จนถึง 31 ธันวาคม 2564 โดยมิต้องติดต่อแจ้งความจำนง

 

มาตรการที่ 2: ปรับลดดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษและขยายเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยลูกค้าต้องลงทะเบียนแจ้งความจำนงและจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี  

 

ขณะที่ลูกค้าผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษและลดภาระการชำระคืนด้วยการขยายเวลาการผ่อนชำระนานสูงสุด 48 เดือน สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล กรณียอดสินเชื่อคงค้างน้อยกว่า 30,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษและลดการผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือเพียง 3% กรณียอดสินเชื่อคงค้าง 30,000 บาทขึ้นไป รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษและลดภาระการชำระคืนด้วยการขยายเวลาการผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน

 

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนรับพิจารณาความช่วยเหลือดังกล่าวผ่านแอปพลิเคชัน UChoose ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

 

มาตรการที่ 3: มาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกหนี้ค้างชำระ จะได้รับการปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือน โดยขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล โดยลูกค้าสามารถแจ้งความจำนงมายังบริษัท

 

ด้าน ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SMEs ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ในช่วงเร่งติดต่อลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าแสดงความจำนงในการเข้ามาขอความช่วยเหลือตามมาตรการนี้ ทั้งนี้ ธนาคารมีลูกค้าที่มีสิทธิตามมาตรการนี้จำนวนกว่า 18,000 ราย เป็นมูลค่าหนี้กว่า 237,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารขอเรียนให้ลูกค้ารีบแสดงความจำนงเข้ามา และธนาคารมีความพร้อมที่จะดูแลช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

 

อรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ข้อมูล ณ วันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารมีจำนวนลูกค้าสินเชื่อรายย่อย (Retail) และสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย (SMEs) แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ 2 เดือน รวมทั้งสิ้นแล้วประมาณ 155,000 บัญชี คิดเป็นยอดหนี้ประมาณ 66,070 ล้านบาท

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X