ผลการลงประชามติเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (20-22 เม.ย.) พบว่าชาวอียิปต์เกือบ 90% สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 140 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2014 โดยให้มีการขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจาก 4 ปี เป็น 6 ปี และสนับสนุนให้ผู้นำประเทศสามารถลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้เพิ่มอีก 1 สมัย ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ นายอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน อาจบริหารประเทศได้ยาวถึงปี 2030 โดยมีผู้ออกมาใช้สิทธิ 44.43% จากจำนวนผู้มีสิทธิราว 61 ล้านคน
นายอัล-ซิซีเป็นอดีตนายพลที่ก้าวขึ้นสู่อำนาจหลังจากการโค่นล้มอำนาจของประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ช่วงกลางปี 2014 โดยนายอัล-ซิซีชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาด้วยการกวาดคะแนนเสียงถล่มทลายถึง 97.08%
หลังจากที่ทราบผลการลงประชามติ นายอัล-ซิซีเผยว่า “ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ เป็นการขีดเขียนเกียรติยศครั้งใหม่ลงในหน้าประวัติศาสตร์ของชาวอียิปต์”
หลายฝ่ายกังวลใจว่ามติที่เกิดขึ้นอาจนำพาอียิปต์ไปอยู่ภายใต้การปกครองระบอบเผด็จการอำนาจนิยมอีกครั้ง เนื่องจากการบริหารประเทศและการตัดสินใจในประเด็นต่างๆ ถือเป็นสิทธิขาดของประธานาธิบดีเพียงคนเดียว อีกทั้งยังมีการระบุให้กองทัพอียิปต์ถือเป็นสถาบันที่มีหน้าที่พิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยของประเทศอีกด้วย
ภาพ: Mohamed Elshahed / AFP
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: