วานนี้ (8 กุมภาพันธ์) สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ THE STANDARD NOW ในประเด็นที่ 7 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยตัดสินใจลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยกทีม เพื่อคัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพราะมองว่าค่าโดยสารใหม่ในเรตราคา 65 บาท เป็นการขูดเลือดขูดเนื้อคนหาเช้ากินค่ำมากจนเกินไป
โดยสิริพงศ์บอกว่า เรื่องนี้ถ้าได้คุยกับสภาคุ้มครองผู้บริโภค จะได้รับคำตอบกลับมาว่า ค่าโดยสารที่ถูกต้องตลอดทั้งวันต้องไม่เกิน 10% ของค่าแรงขั้นต่ำ เท่ากับว่า ถ้าวันนี้ค่าแรงขั้นต่ำคือ 300 บาท ค่าโดยสารรถสาธารณะต้องไม่เกิน 30 บาท อันนี้เป็นหลักการของสภาคุ้มครองผู้บริโภค
ส่วนหลักการของกระทรวงคมนาคม มองมาตรฐานค่าโดยสารมีการวัดหลักเกณฑ์ในการคิดค่าโดยสารหลักๆ 3 ประการคือ
- Distance Rate คิดค่าโดยสารตามระยะทางที่วิ่งจริง
- Zone Rate เป็นการคิดอัตราค่าโดยสารตามเขต ตามพื้นที่ เป็นการเหมาราคาเดิมตลอดบริเวณพื้นที่จำกัด แต่จะเพิ่มค่าโดยสารเมื่อข้ามเขตไปยังพื้นที่อื่น
- Flat Rate เป็นราคาเหมาจ่ายตลอดเส้นทางที่ชัดเจน
ดังนั้นเมื่อหันมามองมุมเรตราคาตั๋วรถไฟฟ้าในไทยที่ผ่านการคำนวณโดยกระทรวงคมนาคม พบว่าราคารถไฟฟ้าไม่ควรเกิน 40 บาทต่อสาย อีกทั้งหนังสือสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS จนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ตั้งแต่สภาหรือกรรมาธิการ ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ไม่มีใครมีโอกาสได้เห็นสัญญาดังกล่าวแม้แต่คนเดียว แม้แต่กระทรวงที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกระทรวงคมนาคมก็ไม่เคยเห็นสัญญาฉบับนี้
ทั้งนี้ เมื่อถูกถามว่า ท้ายที่สุดหาก ครม. มีมติอนุมัติการต่อสัมปทานฯ พรรคภูมิใจไทยจะทำอย่างไรต่อไป
สิริพงศ์กล่าวว่า ทางพรรคภูมิใจไทยจะมีการโต้ตอบอย่างแน่นอน แต่ว่าจะโต้ตอบระดับไหน ตนยังตอบไม่ได้ เพราะตนไม่ใช่ผู้บริหาร แต่ตนเป็นคนหนึ่งที่แน่นอนว่าจะต้องไปสู้กันสุดลิ่มทิ่มประตูกับประเด็นนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องปากท้อง เป็นเรื่องที่กระทบกับคนทุกระดับ ไม่ใช่เรื่องที่กระทบเฉพาะคนกรุงเทพฯ วันนี้มีคนต่างจังหวัดไม่น้อยที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ มันเป็นเรื่องที่เราต้องรักษาผลประโยชน์ สุดท้ายมันจะถูกลงได้เท่าไรก็ตามแต่ เราจะทำให้มันลดราคาให้ได้มากที่สุด บนพื้นฐานที่เราถืออยู่ ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว ราคาอาจจะไม่ถูกใจทุกคน เพราะหลักการที่เราใช้คือหลักเกณฑ์มาตรฐานโลก
ในช่วงท้ายมีการถามต่อว่า ท้ายที่สุดจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างพรรคภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ จนถึงขั้นไม่ร่วมรัฐบาลกันเลยหรือไม่
สิริพงศ์ระบุว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
“ทางภูมิใจไทยเราพูดมาตลอดแล้วว่า ไม่ว่าเหตุการณ์อนาคตอันใกล้จะเป็นอย่างไรก็ตามเราก็พร้อม ถ้าพูดถึงเลือกตั้งก็ต้องบอกเลยว่าภูมิใจไทยของเราพร้อมตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ อย่าว่าแต่ยุบสภาในวันพรุ่งนี้เลย ถ้ายุบสภาตั้งแต่เมื่อวานเราก็พร้อม
“แต่ตราบใดที่เรายังทำงานได้ เราก็จะทำงานด้วยกัน เพราะพรรคภูมิใจไทยจะอยู่ได้เมื่อเสนอผลงานให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน เพราะถ้าถึงวันที่เราทำงานไม่ได้มันก็ไม่มีประโยชน์ มันไม่มีประโยชน์ที่เราจะต้องไปด้วยกัน ผมเลยบอกตามหลักว่าอะไรก็เกิดขึ้นแน่นอน” สิริพงศ์กล่าวในท้ายที่สุด