เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 บมจ.แสนสิริ (SIRI) รายงานผลประกอบการ 1Q68 โดยมีกำไรสุทธิ ที่ 814 ล้านบาท (ลดลง 38.1%YoY และ ลดลง 34.5%QoQ) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 18% จากกำไรพิเศษจากเงินลงทุน รายได้รวมอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท (ลดลง 33.9%YoY และ ลดลง 33.6%QoQ) สอดคล้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวลง โดยแบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 70% และคอนโด 30% ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากยอดโอน 10% ที่โครงการคาบานาส หัวหิน ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จใน 1Q68
อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 30.6% ลดลง YoY แต่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการจัดโปรโมชั่นราคาอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายเพิ่มขึ้นสู่ 24.5% จากรายได้ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากโครงการใหม่และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหว ใน 1Q68 SIRI บันทึกกำไรพิเศษ 2 รายการ คือ กำไรจากการขายที่ดินจำนวน 100 ล้านบาท และกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทย่อย (ขายที่ดินให้ JV) จำนวน 134 ล้านบาท จากที่ดินรวม 4 แปลง
กำไรสุทธิ 1Q68 คิดเป็น 18.5% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ของ InnovestX Research
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ราคาหุ้น SIRI ปรับลง 2.9% สู่ 1.33 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 2.0% สู่ 1,187.06 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2568:
ใน 2Q68 SIRI จะเปิดตัวโครงการรวม 4 โครงการ มูลค่ารวม 6 พันล้านบาท น้อยกว่าแผนเดิมที่วางไว้ 6 โครงการ มูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทเลื่อนเปิดตัวโครงการแนวราบ 1 โครงการ และคอนโด 1 โครงการออกไปเป็น 2H68 โครงการที่เป็นไฮไลต์สำหรับ 2Q68 คือ โครงการนาราสิริ บางนา กม.10 มูลค่า 4 พันล้านบาท (โครงการร่วมทุน) และโครงการ Via 34 ซึ่งเป็นคอนโด low-rise พร้อมอยู่ มูลค่า 1.33 พันล้านบาท ดังนั้น ใน 2H68 SIRI จะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 15 โครงการ มูลค่ารวม 3.2 หมื่นล้านบาท
SIRI ตั้งเป้าว่าหากความต้องการในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ใน 2H68 บริษัทอาจเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่บางโครงการออกไปเป็นปี 2569 จากแผนเดิมที่วางไว้ 29 โครงการ มูลค่า 5.2 หมื่นล้านบาท
ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 SIRI มี backlog ในมือมูลค่า 2.18 หมื่นล้านบาท (backlog ของ SIRI เอง 87% และของ JV 13%) โดย 47% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568 และ 53% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2569-2570 InnovestX Research คงประมาณการรายได้ปี 2568 ของ SIRI ไว้ที่ 3.75 หมื่นล้านบาท (ลดลง 0.8%) โดยมี secured revenue ที่ 36% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะยังอยู่ในระดับต่ำใน 1H68 เนื่องจาก SIRI ยังลดราคาลงเพื่อระบายสินค้าคงเหลือ และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 30.1%
สำหรับกำไรสุทธิปี 2568 คาดอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท (ลดลง 16.2%) โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในแต่ละไตรมาสในช่วงที่เหลือของปี 2568 โดยคาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ 1.0 หมื่นล้านบาท ใน 2Q68 ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไรสุทธิอยู่ในระดับทรงตัว YoY แต่จะเพิ่มขึ้น QoQ ทั้งนี้ยังไม่ได้รวมกำไรพิเศษจาก JV, การขายเงินลงทุนใน The Standard และกำไรจาก REIT (PROSPECT REIT) ใน 2H68 เข้ามาในประมาณการ
กลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research คงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ SIRI โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 1.80 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PE 7.1 เท่า หรือ +0.25S.D. จาก PE เฉลี่ย 18 ปี
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การบริหารกระแสเงินสด อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสูง และการบริหารสินค้าคงคลัง ESG rating: SIRI ได้รับการปรับอันดับ SET ESG Ratings ขึ้นจาก AA ในปี 2566 มาอยู่ที่ AAA ในปี 2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และสูงที่สุดในกลุ่ม