สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศแห่งสตอกโฮล์ม (SIPRI) เปิดเผยรายงานงบประมาณกลาโหมของประเทศทั่วโลกในปี 2018 โดยสหรัฐอเมริกาและจีนยังคงเป็นสองประเทศที่ใช้จ่ายด้านการทหารสูงที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของงบประมาณกลาโหมทั่วโลก ขณะที่ไทยใช้งบกลาโหม 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.16 แสนล้านบาท) อยู่ในอันดับที่ 29 จากทั้งหมด 40 อันดับในรายงานของ SIPRI
รายงานระบุว่าทั่วโลกมียอดใช้จ่ายเพื่อการป้องกันประเทศสูงแตะ 1.82 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2018 เพิ่มขึ้น 2.6% จากปี 2017 โดยตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการจัดทำข้อมูลงบประมาณกลาโหมที่เชื่อถือได้ในปี 1988
ดร.แนน เทียน นักวิจัยโครงการรายจ่ายด้านอาวุธและการทหารของ SIPRI ระบุว่างบประมาณกลาโหมทั่วโลกในปี 2018 มีสัดส่วนคิดเป็น 2.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมทั่วโลก (GDP) โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาจากงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และจีนเป็นหลัก
สำหรับอันดับ 1 ยังคงเป็นของสหรัฐฯ ที่ครองตำแหน่งแชมป์อย่างเหนียวแน่นด้วยจำนวนงบประมาณกลาโหมสูงถึง 6.49 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 3.2% ของ GDP และ 35.6% ของงบกลาโหมทั่วโลก
ขณะที่จีนใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 5% เป็น 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2018 ซึ่งถือเป็นตัวเลขการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 24 ปีติดต่อกัน โดยงบกลาโหมของจีนมีสัดส่วน 1.9% ของ GDP และ 14% ของรายจ่ายเพื่อการป้องกันประเทศทั่วโลก
ส่วนอันดับ 3 คือซาอุดีอาระเบีย จำนวน 6.76 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยอินเดีย 6.65 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, ฝรั่งเศส 6.38 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, รัสเซีย 6.14 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, สหราชอาณาจักร 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, เยอรมนี 4.95 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, ญี่ปุ่น 4.66 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และเกาหลีใต้ 4.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนไทยขยับขึ้นจากอันดับ 31 ในปี 2017 มาอยู่ที่อันดับ 29 ในปี 2018 ด้วยจำนวนงบประมาณ 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.16 แสนล้านบาท) คิดเป็น 1.3% ของ GDP
ภาพ: Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
