ถ้าคุณเห็นชื่อบทความนี้แล้วคลิกเข้ามาอ่านทันที ความเป็นไปได้ที่คุณยังโสดอยู่ (หรือลังเลว่าอยากโสด) นั้นมีสูง
ด้วยบริบททางสังคมและค่านิยมที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน การเลือกที่จะอยู่เป็นโสดไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือผิดแผกแตกต่างดังในอดีต แต่เชื่อว่าสำหรับคนโสดบางคนก็อาจยังมีข้อสงสัยลึกๆ ในใจว่า ‘ทำไมเราถึงยังโสดอยู่ล่ะ?’
ปีเตอร์ แบ็คคัส นักคณิตศาสตร์หนุ่มโสดวัย 31 ปีชาวอังกฤษก็แอบสงสัยในประเด็นนี้เหมือนกัน แต่เขาไม่จบความสงสัยไว้แค่ในใจ กลับพยายามใช้สมการทางคณิตศาสตร์เข้าหาคำตอบ จนคลอดออกมาเป็นเปเปอร์โรแมนติกแบบเนิร์ดๆที่มีชื่อว่า Why I don’t have a girlfriend: An application of Drake Equation to love in the UK
โดยแบ็คคัสได้ดัดแปลงสมการของ ดร.แฟรงก์ เดรก นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งเขียนสมการนี้ไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 เพื่อคำนวณหาจำนวนอารยธรรมดาวเคราะห์ในทางช้างเผือกที่สามารถสื่อสารกับเราได้ โดยแบ็คคัสให้เหตุผลว่า หากสมการของเดรกเขียนขึ้นเพื่อคำนวณหาความเป็นไปได้ของสิ่งที่แทบไม่มีทางจะหาเจอได้ในทางช้างเผือกอันกว้างใหญ่ สมการนี้ก็ควรจะนำมาเทียบเคียงได้กับความยากยิ่งในการหาแฟนสำหรับเขาเช่นกัน
โดยสมการความโสดที่เขาดัดแปลงมานั้นมีอยู่ว่า
G = N x fw x fL x fA x fU x fB
G = จำนวนผู้หญิงที่มีโอกาสจะได้เป็นแฟนกัน
N = จำนวนประชากรในประเทศ
fW = สัดส่วนของประชากรในประเทศที่เป็นผู้หญิง (Woman)
fL = สัดส่วนของประชากรผู้หญิงที่อยู่ในลอนดอน (London)
fA = สัดส่วนของประชากรผู้หญิงในลอนดอนที่อยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสม (Age)
fU = สัดส่วนของประชากรผู้หญิงในลอนดอนที่อยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสม และจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย (University)
fB = สัดส่วนของประชากรผู้หญิงในลอนดอนที่อยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสม จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและหน้าตาสะสวย (Beautiful ในความเห็นของผู้เขียนสมการ)
เมื่อนำตัวเลขจริงทั้งหมดมาแทนในสมการ แบ็คคัสพบว่ามีจำนวนผู้หญิงที่มีโอกาสจะมาเป็นแฟนกับเขาเท่ากับ 10,510 คน หรือคิดเป็น 0.0014% ของชาวลอนดอน และเมื่อคิดถึงปัจจัยอื่นๆ ซึ่งเขาไม่ได้ใส่เข้ามาในสมการ แต่มีผลในโลกแห่งความจริง อย่างความเป็นไปได้ที่ผู้หญิงจะชอบเขา สัดส่วนของผู้หญิงที่ยังเป็นโสดอยู่ และสัดส่วนของผู้หญิงที่จะคบแล้วนิสัยเข้ากันได้ จะเหลือโอกาสที่เขาจะได้มีแฟนเพียง 0.000350877% เท่านั้น
และนั่นอธิบายได้ว่า ทำไมเขาถึงยังเป็นโสด!
ไม่อาจคาดเดาได้ว่า เมื่อคุณผู้อ่านที่ยังโสดอยู่ได้เห็นตัวเลขนี้แล้วจะรู้สึกสบายใจขึ้น ที่มีสมการ (ประหลาดๆ) อธิบายความโสดให้หายสงสัยเสียที หรือรู้สึกเศร้าใจในเปอร์เซ็นต์ที่ริบหรี่นี้
แต่ข่าวดีที่ตามมาคือ หลังจากที่เปเปอร์สนุกๆ ของเขาได้ถูกเผยแพร่ไปไม่นานนัก แบ็คคัสก็ถอดรหัสสมการความโสดได้สำเร็จ โดยเขาพบหญิงสาวในฝัน (แม้โอกาสนั้นจะมีเพียง 0.00035%) และได้แต่งงานกันในอีก 3 ปีต่อมา
ปีเตอร์ แบ็คคัสกับเจ้าสาวของเขา
สมการความโสดของแบ็คคัสกำหนดขึ้นมาจากข้อแม้ที่เขามีในการเลือกคู่ แม้หมอจะอ่อนด้อยในทางคณิตศาสตร์ แต่ก็แอบตั้งสมมติฐานแก้สมการโสดได้ว่า หากลองเพิ่มความน่าจะเป็นโดยออกไปหาประสบการณ์พบเจอผู้คนมากๆ และลดข้อแม้ f ในสมการลง ตัด fR (Rich สัดส่วนประชากรที่รวย), fS (Spoiled สัดส่วนประชากรที่ยอมตามใจคุณทุกอย่าง) f6 (Six-pack สัดส่วนประชากรที่หุ่นดีมีกล้ามท้อง) หรือสารพัด f ที่ไม่จำเป็นออกไปได้ น่าจะช่วยให้ค่า G เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
เป็นสมมติฐานซึ่งต้องพิสูจน์กันต่อไปตามภาษาคณิตศาสตร์ที่ว่า ‘quod erat demonstrandum’ ซึ่งคงต้องเชิญชวนคนโสดมาแก้สมการพิสูจน์กันในเดือนแห่งความรักนี้กันค่ะ
ภาพประกอบ: Pichamon Wannasan
อ้างอิง: