‘สิงคโปร์’ กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการเงินแห่งใหม่ของเอเชียแทนที่ ‘ฮ่องกง’ ที่สูญเสียความน่าสนใจลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักมาจากการที่จีนแทรกแซงระบบการปกครองของฮ่องกง ส่งผลต่อเสรีภาพทางการเงินและเสรีภาพของสื่อ
เศรษฐีจีนจำนวนมากต่างมองหาสถานที่ปลอดภัยสำหรับเก็บเงินของพวกเขา และสิงคโปร์ก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ที่ได้รับความนิยม หลายๆ คนรวมถึง Neil Shen ผู้ร่วมก่อตั้ง Trip.com ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปอยู่สิงคโปร์
ขณะเดียวกัน บทความของ Nikkei Asia อธิบายว่าโตเกียวเองก็มีศักยภาพที่จะแข่งขันกับสิงคโปร์ เมืองหลวงของญี่ปุ่นเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นก็ตระหนักถึงโอกาสนี้ และประกาศนโยบายเพื่อกระตุ้นการแข่งขันในอุตสาหกรรมการจัดการสินทรัพย์มูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.75 แสนล้านล้านบาท)
ญี่ปุ่นมีจุดแข็งหลายประการ เช่น ระบบกฎหมายที่มั่นคง ประชาธิปไตยที่แข็งแกร่ง เศรษฐกิจขนาดใหญ่ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่ญี่ปุ่นยังมีจุดอ่อน เช่น การขาดแคลนความหลากหลายของผู้ให้บริการ ผู้มีความสามารถ และลูกค้าทางการเงิน รวมถึงภาษีและระบบราชการที่ยุ่งยาก
ญี่ปุ่นควรเรียนรู้จากฮ่องกง ว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ฮ่องกงประสบความสำเร็จในฐานะศูนย์กลางการเงิน ปัจจัยเหล่านี้รวมถึงประสิทธิภาพภาษีเงินได้ การปกครองแบบไม่แทรกแซง และการเปิดรับคนทำงานที่มีความสามารถจากทั่วโลก
นอกจากนี้ญี่ปุ่นสามารถเสนอสิ่งที่มากกว่าอาหารอร่อย และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเศรษฐีจีนได้ หากญี่ปุ่นสามารถสร้างความมั่นใจให้พวกเขาได้ว่า เงินของพวกเขาจะได้รับการจัดการอย่างมืออาชีพ โปร่งใส และปลอดภัย เช่นเดียวกับที่พวกเขาคาดหวังจากผู้ให้บริการในนิวยอร์ก ลอนดอน และสิงคโปร์ ญี่ปุ่นก็มีโอกาสดึงดูดเงินทุนจากจีนจำนวนมหาศาล
การแข่งขันระหว่างสิงคโปร์และโตเกียวกำลังจะกลายเป็นจุดสนใจใหม่ในภูมิภาคเอเชีย ฮ่องกงกำลังสูญเสียความน่าสนใจลงอย่างรวดเร็ว และอนาคตของศูนย์กลางการเงินในเอเชียกำลังอยู่ในมือของสองเมืองนี้
อ้างอิง: