สิงคโปร์หวังขึ้นแท่น ‘เทคฮับ’ เปิดทางหัวกะทิด้านเทคโนโลยี 500 คนทั่วโลกร่วม Tech.Pass ต้นปีหน้า

สิงคโปร์หวังขึ้นแท่น ‘เทคฮับ’ ปูพรมต้อนรับหัวกะทิด้านเทคโนโลยี 500 คนทั่วโลกร่วม Tech.Pass ปีหน้า

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ประเทศสิงคโปร์ แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เปิดตัวโครงการ Tech.Pass เพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่มีทักษะสูงในสาขาต่างๆ เช่น อีคอมเมิร์ซ ปัญญาประดิษฐ์ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ ทั้งนี้เพื่อนำพาสิงคโปร์ก้าวไปข้างหน้าในการแข่งขันระดับโลก

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมกล่าวว่า ภายใต้โครงการ Tech.Pass รัฐบาลจะเปิดรับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับแนวหน้าจำนวน 500 คน โดยต้องมีประวัติที่พิสูจน์ได้แล้วว่ามีส่วนร่วมในระบบนิเวศของเทคโนโลยีระดับโลก

ภายใต้โครงการ Tech.Pass บุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะสามารถได้รับวีซ่าประเภทใหม่ที่อนุญาตให้ผู้มีคุณสมบัติเริ่มต้นทำงานกับบริษัทที่สนใจได้มากกว่า 1 แห่ง รวมถึงสามารถเป็นนักลงทุนและที่ปรึกษาสำหรับสตาร์ทอัพในท้องถิ่นได้ด้วย

วีซ่านี้มีความยืดหยุ่นมากกว่ากฎระเบียบของรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งกำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องสนับสนุนวีซ่าให้กับบุคลากรที่พวกเขาต้องการ อย่างไรก็ตาม วีซ่าทำงานนี้ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับกลาง เพราะอาจจะมาแข่งขันหรือแย่งงานกับแรงงานท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้กำลังประเด็นทางการเมืองและกดดันให้รัฐบาลสิงคโปร์เข้มงวดในการออกใบอนุญาตทำงานให้กับชาวต่างชาติ

แต่วีซ่านี้จะมุ่งเป้าไปที่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จสูง และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคซึ่งสามารถดึงดูดเงินทุน เครือข่าย และองค์ความรู้มาใช้เพื่อผลักดันให้สิงคโปร์มุ่งไปสู่เป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของภูมิภาค

ชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการ Tech.Pass จะช่วยเพิ่มความสามารถด้านเทคโนโลยีที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในสิงคโปร์และสร้าง Flywheel Effect เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและสร้างจุดยืนที่ชัดเจนให้กับสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีชั้นนำของภูมิภาคนี้

“การมีผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ในสิงคโปร์ไม่เพียงแต่จะทำให้พวกเขาสามารถนำเงินทุนเครือข่ายและองค์ความรู้มาสู่ระบบนิเวศเทคโนโลยีของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับชาวสิงคโปร์ด้วย” ชาน ชุน ซิง กล่าว

ทั้งนี้โครงการได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่เข้าร่วมโครงการเอาไว้ 3 ประการ โดยผู้สนใจต้องครบคุณสมบัติ 2 ใน 3 จึงจะสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ โดยจะเริ่มเปิดรับในเดือนมกราคม 2021 อันประกอบด้วย

ต้องได้รับเงินเดือนเดือนสุดท้ายอย่างน้อย 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 14,800 ดอลลาร์สหรัฐ

มีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปีในฐานะผู้นำองค์กรหรือบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตลาดอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์

มีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่มีผู้ใช้งานอย่างน้อย 100,000 คนต่อเดือน หรือมีรายได้อย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

FYI

Flywheel Effect ถูกหยิบมาใช้ครั้งแรกโดย Jim Collins ในหนังสือคลาสสิก Good to Great
แนวคิดสำคัญของ Flywheel Effect คือ บริษัทที่ดีไม่ได้กลายเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่เพียงชั่วข้ามคืน และไม่มีสิ่งมหัศจรรย์ใดที่จะช่วยให้เกิดความสำเร็จแก่องค์กรได้ หากแต่เป็นกระบวนการแบบค่อยเป็นค่อยไป การทำงานหนัก และและตั้งใจดำเนินการไปสู่จุดหมายในที่สุดต่างหากที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ