วันนี้ (24 สิงหาคม) กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เปิดเผยว่า ทางการจะยกเลิกข้อกำหนดที่ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยในที่ร่มตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมเป็นต้นไป หลังจากที่สถานการณ์โควิดในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น
ประกาศดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีที่สิงคโปร์มีคำสั่งให้ยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่ม อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เข้าใช้บริการขนส่งสาธารณะและพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สถานพยาบาล จะยังคงต้องใส่หน้ากากอนามัยอยู่
นอกจากนี้สิงคโปร์ยังอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเข้ารับการฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนไม่ครบโดส สามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว 7 วัน เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป โดยมีข้อกำหนดว่านักท่องเที่ยวจะต้องแสดงผลตรวจเชื้อเป็นลบภายในระยะเวลา 2 วันก่อนเดินทางมายังสิงคโปร์
ออง ยี กุง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ประชาชนกว่า 70% ของประเทศเคยติดเชื้อโควิดมาก่อนแล้ว และจนถึงขณะนี้ อัตราการติดเชื้อซ้ำยังถือว่าต่ำมาก โดยปัจจุบันชาวสิงคโปร์กว่า 90% ของประเทศได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโควิดต่ำมากอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศจะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไป และได้วางแผนไว้รับมือกับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเพิ่มขีดความสามารถด้านการรักษาพยาบาลและการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนหากจำเป็น เนื่องจากเชื้อโควิดเป็นไวรัสที่สามารถกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
แฟ้มภาพ: Bernd von Jutrczenka / picture alliance via Getty Images
อ้างอิง: