×

สิงคโปร์ทำอย่างไร ในการแก้ปัญหาสแกมเมอร์

28.11.2025
  • LOADING...
สิงคโปร์ ทำอย่างไร ในการแก้ปัญหา สแกมเมอร์

ชาวอาเซียนคุ้นเคยกับสแกมเมอร์เป็นอย่างดี เพราะเป็นภูมิภาคที่เป็นทั้งฐานที่ตั้งสำคัญของแก๊งสแกมเมอร์อย่างเมียนมาและกัมพูชา โดยมีไทยเป็นทางผ่านทั้งคนและการฟอกเงิน และเป็นภูมิภาคที่ถูกสแกมเมอร์หลอกลวงจำนวนมากด้วยฝีมือของทั้งคนในภูมิภาคอื่นและคนในอาเซียนกันเอง

 

สิงคโปร์อาจเป็นประเทศที่ร่ำรวยและทันสมัย แต่นั่นก็ทำให้สิงคโปร์ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของสแกมเมอร์ด้วย และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะจะเห็นได้ว่ามูลค่าความเสียหายต่อหัวที่ชาวสิงคโปร์ถูกหลอกหลวงนั้นสูงถึง 2,132 เหรียญ มากกว่ามาเลเซียอันดับสองที่เสียหาย 1,035 เหรียญต่อหัวถึงหนึ่งเท่า และตามมาด้วยไทยที่เสียหายเฉลี่ยคิดเป็น 354 เหรียญต่อหัว

 

ด้วยเหตุนี้สิงคโปร์จึงเน้นเป็นพิเศษทั้งในการป้องกันและปราบปรามสแกมเมอร์ และด้วยความโปร่งใสของรัฐบาลสิงคโปร์ที่สูงติดอันดับโลก ทำให้มั่นใจได้ว่านักการเมืองและข้าราชการทุกคนของสิงคโปร์จะมีความพยายามเต็มที่กับการปราบสแกมเมอร์ เพราะตนเองไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆ จากแก๊งสแกมเมอร์เหล่านี้เลย

 

ในงาน Singapore International Cyber Week ซึ่งเป็นงานรวบรวมเทคโนโลยีและการสัมมนาเกี่ยวกับไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดติด 1 ใน 3 ของโลกที่จัดขึ้นในสิงคโปร์เมื่อเดือนที่ผ่านมา โก๊ะ เผย หมิง รัฐมนตรีกิจการแห่งรัฐด้านกิจการบ้านเรือนและการพัฒนาสังคมและครอบครัวของสิงคโปร์กล่าวว่า สิ่งที่สแกมเมอร์ทำได้ดีที่สุดก็คือการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อสร้างผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงให้มากที่สุด โดยไม่ต้องก้าวเข้ามาในเขตแดนที่กฎหมายจะลงโทษได้ และความรุนแรงจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลทั่วโลกที่จะต้องร่วมมือกัน แบ่งปันข้อมูลการข่าว ปฏิบัติงานร่วมกัน และลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อตามให้ทันหรือก้าวนำเทคโนโลยีของสแกมเมอร์ ดังนั้นเราต้องพร้อมที่จะสร้างนวัตกรรม ลงทุนวิจัยและพัฒนา และทำงานร่วมกับภาคเอกชนเพื่อทำให้การปราบสแกมเมอร์ได้ผลดีที่สุด

 

สิงคโปร์ ทำอย่างไร ในการแก้ปัญหา สแกมเมอร์ 1

 

“รัฐบาล เอกชน ประชาชน และชุมชน ล้วนต้องมีบทบาท รัฐบาลต้องเป็นผู้ประสานงานและควบคุมโดยสร้างโครงสร้างต่อต้านสแกมเมอร์และกำกับดูแลให้โครงสร้างนั้นทำงานได้ โดยสิงคโปร์มีคณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งมีรัฐมนตรีโจเซฟิน เตียว ทำหน้าที่สั่งการหน่วยงานราชการในปฏิบัติการทั้งหมด นอกจากนั้นรัฐบาลยังมีหน้าที่ออกกฎหมายที่มีประสิทธิภาพในการปราบสแกมเมอร์ เช่น สิงคโปร์ได้ออกกฎหมายอาชญากรรมออนไลน์เพื่อให้รัฐบาลมีอำนาจสั่งการให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มีเทคโนโลยีและกฎระเบียบในการป้องกันสแกมเมอร์” โก๊ะ เผย หมิง กล่าว

 

เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์ยังร่วมมือใน Project Frontier+ ซึ่งเป็นความร่วมมือของสิงคโปร์กับฮ่องกง มาเลเซีย ไทย มัลดีฟส์ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย มาเก๊า แคนาดา อินโดนีเซีย และบรูไนในการแบ่งปันการข่าว ปฏิบัติการร่วมกัน และประสานงานเพื่อปราบปรามสแกมเมอร์ในระดับนานาชาติ โดยผลจากการดำเนินงานทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1,858 รายและยึดทรัพย์ได้ราว 654 ล้านบาท

 

ภาคเอกชนสิงคโปร์ยังมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการปราบปรามสแกมเมอร์ โดยธนาคารของสิงคโปร์มีระบบติดตามความเคลื่อนไหวของบัญชีเพื่อดูว่ามีการเคลื่อนย้ายเงินผิดปกติหรือไม่ และถ้าพบก็สามารถสกัดการโอนได้ทันที ผู้ให้บริการเครือข่ายมีระบบบล็อกสายโทรเข้าและ SMS ที่คาดว่าจะมาจากสแกมเมอร์ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ก็ลงทุนมากขึ้นในการยืนยันตัวตนและการลบเนื้อหาของสแกมเมอร์

 

โก๊ะ เผย หมิง ย้ำว่าทุกภาคส่วนตัวจับมือกันให้แน่นยิ่งขึ้นในการปราบปรามสแกมเมอร์ โดยมีสามส่วนที่ต้องดำเนินการคือ ต้องสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสกัดแก๊งสแกมเมอร์และการเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวงไป โดยทั้งภาครัฐและเอกชนอาจต้องมานั่งทำงานร่วมกันเพื่อให้การตอบสนองรวดเร็วที่สุด

 

อย่างที่สองคือการสร้างระบบป้องกันสแกมเมอร์ โดยใช้ขีดความสามารถของภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการสร้างนวัตกรรมเพื่อต่อต้านสแกมเมอร์ เช่น ในภาคธนาคารของสิงคโปร์ที่สร้างระบบ MoneyLock เพื่อให้ลูกค้าธนาคารสามารถกันเงินบางส่วนออกมาเก็บไว้เป็นเงินที่โอนผ่านแอปธนาคารไม่ได้ ซึ่งมีลูกค้าธนาคารกว่า 370,000 ราย รวมเงินกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสิงคโปร์ใช้เทคโนโลยีนี้แล้ว และสุดท้ายต้องแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน เช่น บริษัท Carousell ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซของสิงคโปร์สามารถระบุตัวตนของบัญชีสแกมเมอร์ได้ 250 บัญชีโดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากกองกำลังตำรวจสิงคโปร์ เป็นต้น

 

“แต่ไม่ว่าเราจะออกแบบระบบอย่างไร ก็ไม่มีระบบใดสามารถป้องกันสแกมเมอร์ได้ 100% ดังนั้นการที่ประชาชนมีความตระหนักรู้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด รัฐบาลสิงคโปร์จึงพัฒนาแอป ScamShield เพื่อให้ประชาชนรายงานหมายเลขโทรศัพท์และ SMS ที่เป็นของแก๊งสแกมเมอร์เข้ามาเพื่อแจ้งเตือนให้กับประชาชนคนอื่นทราบ”

 

ทั้งหมดนี้คือความจริงจังของการปราบสแกมเมอร์ของรัฐบาลสิงคโปร์ โก๊ะ เผย หมิง ปิดท้ายว่า “การต่อสู้กับสแกมเมอร์ต้องมีความร่วมมือเหมือนโซ่ที่คล้องกัน แต่ความเข้มแข็งของโซ่แห่งความร่วมมือนี้ก็มีค่าเท่ากับโซ่ข้อที่อ่อนที่สุด ดังนั้นการยกระดับทั้งระบบนิเวศของการต่อสู้กับสแกมเมอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญด้วยการใช้ทุกองคาพยพของสังคมในการต่อสู่กับสแกมเมอร์”

 

สำหรับ Singapore International Cyber Week นั้นจัดขึ้นเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน ถือเป็นงานด้าน Cyber Security ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก รวบรวมผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไซเบอร์ ทั้งภาครัฐและเอกชนจากทั่วโลกเกือบ 100 ประเทศมาแลกเปลี่ยนมุมมองด้านไซเบอร์ รวมถึงบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมไซเบอร์ที่นำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดในงาน GovWare 2025 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Singapore International Cyber Week ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคมที่สิงคโปร์ โดยในปีหน้างานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12–15 ตุลาคม 2025

 

ภาพ: Agoes Rudianto / NurPhoto via Getty Images

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising