สถาบันที่ดินในเมือง (Urban Land Institute: ULI) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยไม่แสวงหากำไรด้านที่อยู่อาศัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เผยแพร่รายงาน ‘ดัชนีการมีบ้าน (Home Attainability Index)’ ล่าสุดในวันนี้ (30 พฤษภาคม) พบว่าสิงคโปร์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่แพงที่สุดในการซื้อหรือเช่าบ้าน โดยราคาเฉลี่ยของบ้านส่วนตัวในปี 2022 อยู่ที่ราคา 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 41.7 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่าฮ่องกงที่เฉลี่ยอยู่ที่ 1.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 40.3 ล้านบาท ขณะที่ราคาเช่าบ้านในสิงคโปร์ยังแพงที่สุดในภูมิภาค อยู่ที่เฉลี่ยเดือนละ 2,596 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9 หมื่นบาท
รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของขอบเขตราคาบ้านที่สามารถหาซื้อได้ใน 45 เมือง ใน 9 ประเทศของเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
โดยในแง่ของความสามารถในการซื้อ พบว่าราคาเฉลี่ยบ้านส่วนตัวในสิงคโปร์สูงกว่ารายได้ครัวเรือนเฉลี่ยของชาวสิงคโปร์อยู่ที่ 13.7 เท่า ซึ่งมาตรฐานค่าเฉลี่ยราคาบ้านที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายได้ครัวเรือนเกิน 5 เท่านั้น หมายความว่าการเป็นเจ้าของบ้านในสิงคโปร์นั้นแทบจะ ‘เป็นไปไม่ได้’
ขณะที่ในปี 2022 ราคาเฉลี่ยของบ้านในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นมากกว่า 8% ในขณะที่ราคาบ้านในฮ่องกงนั้นลดลง 8.7%
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาบ้านในสิงคโปร์พุ่งสูงขึ้นมาจากจำนวนผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก และเทรนด์ในการย้ายออกจากครอบครัวไปหาที่อยู่ใหม่ของคนหนุ่มสาว
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากอุปทานที่อยู่อาศัยใหม่ที่ลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั้งวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่เป็นผลจากการระบาดของโควิด
ขณะที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้พยายามแก้ไขปัญหาของราคาบ้านที่สูงขึ้นด้วยการออกมาตรการต่างๆ อาทิ การเพิ่มอัตราภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านชาวต่างชาติเป็น 2 เท่า หรือ 60% ที่ประกาศในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ในแง่อัตราการเป็นเจ้าของบ้านของประชากรสิงคโปร์ยังคงสูงถึงเกือบ 90% ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นในการให้ประชากรได้มีบ้านในราคาที่เหมาะสม ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่สิงคโปร์ได้รับเอกราชในยุคทศวรรษที่ 1960
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของบ้านส่วนตัวคิดเป็นเพียงประมาณ 20% ของจำนวนที่อยู่อาศัยทุกประเภทในสิงคโปร์ โดยที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นห้องชุด ซึ่งราคาเฉลี่ยในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 409,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 14.2 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนหน้าราว 7.9% และมีค่าเฉลี่ยราคาที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายได้ครัวเรือนอยู่ที่ 4.7 เท่า
ภาพ: Suhaimi Abdullah / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
