สิงคโปร์ยกระดับมาตรการคุมเข้มถึง 1 มิ.ย. หลังผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งสูงจากคลัสเตอร์หอพักแรงงานต่างชาติ

เมื่อวานนี้ (21 เมษายน) นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงของสิงคโปร์ ประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มทางสังคม ขยายช่วงเวลาเซอร์กิตเบรกเกอร์จากวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ไปถึงอย่างน้อย 1 มิถุนายนนี้ หลังยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จากคลัสเตอร์หอพักแรงงานต่างชาติที่อาศัยอยู่กันอย่างแออัด

นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ระบุว่ามาตรการที่เข้มงวดขึ้นนี้เป็นไปเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมถึงป้องกันการรั่วไหลของเคสผู้ป่วยรายใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นจากกลุ่มแรงงานต่างชาติ โดยทางการจะปิดสถานที่ทำงานเพิ่มเติม รวมถึงจำกัดการเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ อาทิ ตลาดสด ซึ่งจะมีเพียงบางธุรกิจที่สำคัญเท่านั้นที่สามารถอนุญาตให้ดำเนินกิจการต่อไปได้ในช่วงเวลานี้

โดยลีเซียนลุงแนะให้ชาวสิงคโปร์ทยอยออกมาจับจ่ายใช้สอยกันในวันธรรมดาแทนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผู้คนมักจะแน่นขนัด ให้สวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง และออกจากบ้านเฉพาะเท่าที่จำเป็น ซึ่งแต่ละบ้านควรส่งตัวแทนออกมาเพียงแค่บ้านละคนเท่านั้น

“หลายคนคงรู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลขยายเวลาเซอร์กิตเบรกเกอร์ออกไปอีก โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ และแรงงานทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้ แต่ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าความเจ็บปวดระยะสั้นที่เกิดขึ้นนี้เป็นไปเพื่อจัดการกับเชื้อไวรัส เพื่อปกป้องสุขภาพของคุณและคนที่คุณรัก รวมถึงเปิดทางให้เราฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

“โชคไม่ดีที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไม่ได้ลดน้อยลง แต่กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก คาดว่าจะยังมีเคสผู้ป่วยโควิด-19 และกลุ่มเสี่ยงอีกหลายกลุ่มในสังคมนี้ที่เราอาจยังหาไม่พบ”

ล่าสุดสิงคโปร์มียอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในประเทศสูงถึง 9,125 ราย เพิ่มขึ้น 1,111 รายในวันเดียว มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นเกิน 1,000 รายเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน รักษาหายแล้ว 839 ราย เสียชีวิตแล้ว 11 ราย นับเป็นประเทศที่พบการระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุดในย่านอาเซียนขณะนี้

ภาพ: Suhaimi Abdullah / Getty Images

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: