แม้เศรษฐกิจสิงคโปร์จะเติบโตดีเกินคาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เพราะนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงออกมายอมรับว่า ปี 2023 สิงคโปร์ผ่านสมรภูมิสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ค่าครองชีพที่สูง และปี 2024 นี้ยังคงเป็นปีที่ท้าทายต่อเนื่อง แม้นักเศรษฐศาสตร์จะคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นก็ตาม
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า แม้ว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ขยายตัว 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือว่ารอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยแรงหนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและภาคการผลิต ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นจากการขยายตัว 1%
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งปี 2023 แล้ว GDP สิงคโปร์เติบโตที่ 1.2% ก็ยังถือว่าชะลอตัวลงจากการเติบโตที่ 3.6% ในปีก่อนหน้า 2023
ดังนั้น ในปี 2024 นี้เศรษฐกิจสิงคโปร์กำลังเป็นความท้าทายภายใต้การนำของ ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ที่ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในอนาคต
ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์การเมืองบีบสิงคโปร์
เมื่อวันสิ้นปี 2023 ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ กล่าวในวาระปีใหม่ปี 2024 ว่า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์จะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และจะส่งผลต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสิงคโปร์ที่รัฐบาลต้องเตรียมการรับมือ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก
ลียังกล่าวอีกว่า ความตึงเครียดและความเสี่ยงเกี่ยวกับการอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ของคู่แข่งทางการค้า และสถานการณ์ข้ามช่องแคบ หรือความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน ก็ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสิงคโปร์ และมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภูมิภาคแห่งนี้เช่นกัน
ยังไม่รวมถึงผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ถือเป็นความท้าทายสำคัญของสิงคโปร์อีกด้วย
โดยที่ผ่านมาสิงคโปร์ต้องปรับตัวกับอุณหภูมิและระดับน้ำทะเลที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนที่มุ่งเน้นการลดคาร์บอนเป็นศูนย์ แม้ว่ามูลค่าค่าใช้จ่ายจะสูงมากก็ตาม
ค่าครองชีพยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ลีได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ปี 2023 ที่ผ่านมาจะสามารถหลีกเลี่ยงสภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ แต่ภาคครัวเรือนยังคงได้รับแรงกดดันสูงจากหลายปัจจัย จึงส่งผลให้ค่าครองชีพยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหวังว่าโครงการช่วยเหลือต่างๆ ที่ผ่านมาของรัฐบาลจะช่วยแบ่งเบาภาระของภาคครัวเรือนได้
เขากล่าวเสริมอีกว่า เงินเฟ้อกำลังค่อยๆ ลดลง และหวังจะลดลงอีกในปี 2024 นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ (Artificial Intelligence and Robotics) จะเป็นความหวังในการดึงดูดการลงทุนภาคธุรกิจในสิงคโปร์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เซเลนา หลิง นักวิเคราะห์จาก OCBC คาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2024 ของสิงคโปร์จะเติบโตอยู่ที่ 1-3% ซึ่งสอดคล้องกับที่กระทรวงการค้าสิงคโปร์ประเมินไว้
ขณะที่ ชัวฮักบิน นักเศรษฐศาสตร์จาก Maybank มองว่า ยอดการส่งออกและภาคการผลิตเริ่มฟื้นตัว ทำให้เศรษฐกิจในปี 2024 มีแนวโน้มสดใส จึงคาดการณ์ว่า GDP สิงคโปร์จะเติบโต 2.2% ในปี 2024
อ้างอิง: