จาก Coldplay สู่ Ed Sheeran จนมาถึงปัจจุบัน เป็นคิวของ Taylor Swift ชื่อศิลปินระดับโลกเหล่านี้ทำให้สิงคโปร์ถูกจับตามองว่า กำลังใช้ Concert Economics เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า การจัดคอนเสิร์ตของศิลปินเบอร์ต้นระดับโลกในประเทศของตน จะช่วยเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับสิงคโปร์ได้สูงถึง 371 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Yun Liu นักเศรษฐศาสตร์อาเซียนของ HSBC ระบุในรายงานด้านเศรษฐกิจว่า ก่อนหน้านี้สิงคโปร์เคยเป็นประเทศที่ดึงดูดการเดินทางเพื่อการเจรจาทางธุรกิจ แต่ปัจจุบันคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกกำลังจะกลายเป็นเครื่องจักรผลักดันเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรายได้จากภาคบริการ ซึ่งสามารถเพิ่ม GDP ได้มากถึง 10%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สิงคโปร์ผงาดแซงฮ่องกง! ดูดเม็ดเงินบริษัทข้ามชาติตั้งสำนักงานใหญ่ จากปัจจัยเสถียรภาพทางการเมือง
- สิงคโปร์ ยืนยัน ทุ่มเงินสนับสนุน คอนเสิร์ต ‘The Eras Tour’ ของ Taylor Swift เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- คอนเสิร์ต The Eras Tour ของ Taylor Swift ในญี่ปุ่นคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 8,150 ล้านบาท
- คุ้มไหมกับการใช้เงิน 4.8 หมื่นล้านบาท สร้าง ‘สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์’ ที่ไม่ได้เปิดใช้งานทุกวัน
ย้อนไปเมื่อช่วงเดือนมกราคม วงดนตรีจากอังกฤษ Coldplay จัดคอนเสิร์ต 6 รอบที่สนามกีฬาแห่งชาติของสิงคโปร์ แฟนๆ ซื้อตั๋ว 2 แสนใบ และตั๋วก็จำหน่ายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง อีกทั้งยังทำลายสถิติของเมืองที่มีศิลปินขายบัตรได้มากที่สุดในวันเดียว ทั้งนี้ ประเทศสิงคโปร์นับได้ว่าเป็น ‘Asia’s Main Stop’ ของคอนเสิร์ต Music of the Spheres World Tour ของ Coldplay ซึ่งช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศอย่างมาก
Agoda แพลตฟอร์มการเดินทางในเอเชีย-แปซิฟิก บันทึกสถิติการค้นหาที่พักในสิงคโปร์ซึ่ง ‘เพิ่มขึ้นอย่างมาก’ ในช่วงคอนเสิร์ตของ Clodplay โดยบริษัทเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ความสนใจในการจองที่พักในช่วงเวลานั้นเพิ่มขึ้น 8.7 เท่า หลังจากที่วงเริ่มจำหน่ายตั๋วในเดือนมิถุนายน โดยยอดจองที่พักที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย
จุดที่น่าสนใจก็คือ ตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้เป็นต้นไป สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพจัดคอนเสิร์ตของป๊อปสตาร์สาวชาวอเมริกันอย่าง Taylor Swift เจ้าของคอนเสิร์ต Eras Tour ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วที่คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Liu กล่าวว่า Taylor Swift ได้รับการคาดหวังในวงกว้างว่าจะสร้างแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจได้อย่างมาก
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์โรงแรม Smith Travel Research (STR) เผยว่า เพียงไม่นานหลังจากที่ Taylor Swift ประกาศวันคอนเสิร์ตของเธอในสิงคโปร์ ยอดการจองโรงแรมในสิงคโปร์ในเดือนมีนาคม 2024 ก็พุ่งขึ้น 10%
ไม่เพียงแค่โรงแรมเท่านั้น ความต้องการเที่ยวบินสู่สิงคโปร์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน พิสูจน์ได้จากการที่คณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ประกาศว่า ได้ให้ทุนสนับสนุนการนำ Swift’s Eras Tour เข้ามาในประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งสายการบิน Singapore Airlines ซึ่งเป็นสายการบินหลักของประเทศ และสายการบินราคาประหยัดอย่าง Scoot บอกกับ CNBC ว่า ความต้องการเที่ยวบินไปสิงคโปร์ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เช่นเดียวกันกับ Jetstar Asia ที่ยืนยันว่า มีความต้องการเพิ่มขึ้นประมาณ 20% สำหรับเส้นทางที่เชื่อมต่อจุดหมายปลายทาง เช่น กรุงเทพฯ มะนิลา และจาการ์ตา ไปยังสิงคโปร์
Erica Tay ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยมหภาคของ Maybank กล่าวว่า คอนเสิร์ตของ Taylor Swift คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 350-500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (260.3-371.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากรายได้ภาคการท่องเที่ยวและบริการ โดยมีสมมติฐานว่า ผู้ชมคอนเสิร์ตประมาณ 70% เดินทางมาจากต่างประเทศ
“ถ้าเธอ (Taylor Swift) ไม่จัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ ฉันคงไม่ซื้อตั๋ว” Mavis Mook นักศึกษาชาวสิงคโปร์วัย 22 ปี ซึ่งใช้เงินเกือบ 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ (223.38 ดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อซื้อตั๋วคอนเสิร์ตของ Taylor Swift กล่าว
“ฉันอยากสัมผัสประสบการณ์นี้กับเพื่อนที่โตมากับฉันเหมือนกัน มันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะบินไปด้วยกันเพียงเพื่อคอนเสิร์ตเดียว” เธอกล่าวกับ CNBC และเสริมด้วยว่า เธอใช้เงินเพิ่มอีก 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ ไปกับเสื้อผ้าสำหรับคอนเสิร์ตและลูกปัดสำหรับทำสร้อยข้อมือมิตรภาพ ซึ่งผู้ชมคอนเสิร์ตจะต้องแลกกันในทุกจุดทัวร์ และเธอยังจัดสรรเงินทุนเพื่อซื้อสินค้าที่ระลึกของทัวร์ด้วย
ยุค ‘เลื่องชื่อ’ ของสิงคโปร์
สิงคโปร์ยังดึงดูดศิลปินอย่าง Ed Sheeran, Bruno Mars, BLACKPINK และศิลปินหน้าใหม่คนอื่นๆ อีกด้วย ตารางคอนเสิร์ตเหล่านี้ทำให้สิงคโปร์มีความโดดเด่นในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ซึ่งเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่ภาคธุรกิจ MICE ทั้งการประชุม สิ่งจูงใจ การสัมมนา และนิทรรศการ จะเป็นปัจจัยดึงดูดนักเดินทางเพื่อธุรกิจ
Liu กล่าวเพิ่มเติมว่า สิงคโปร์มีความเสี่ยงอย่างมากต่อการผลิตเทคโนโลยีและการเงิน แต่บริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางคิดเป็น 10% ของ GDP ของประเทศ
ขณะที่ Tay จาก Maybank ตั้งข้อสังเกตว่า การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมกำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังการแพร่ระบาดของโควิด เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่เต็มใจบินเพื่อเข้าร่วมคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬา
นอกเหนือจากรายได้จากคอนเสิร์ตโดยตรงแล้ว คนดังระดับโลกหรือ A-Listers ยังสามารถสร้างชื่อเสียงที่ยืนยาวขึ้นได้ ในฐานะที่เป็นประเทศเจ้าบ้าน
“ฉากที่เธอ (Taylor Swift) สนุกสนานในสิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็นการลองชิมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์หรือชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่จะช่วยได้มาก และถ้าเธอหลงรักข้าวมันไก่ ก็สามารถทำให้อาหารจานนี้และสิงคโปร์ปรากฏบนแผนที่สำหรับผู้ชมกลุ่มใหม่ทั่วโลกได้” Tay กล่าว
GDP ปี 2023 โตเพียง 1.1%
เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สิงคโปร์ปรับลดการเติบโตทั้งปีสำหรับปี 2023 เนื่องจากข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเติบโต 1.1% เทียบกับประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 1.2%
ข้อมูลจากกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเผยว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์ในไตรมาส 4/23 ขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ล่วงหน้าของรัฐบาลที่จะเติบโต 2.8% โดยสาเหตุหลักมาจากกิจกรรมการผลิตหดตัว
ขณะที่เป้าหมายการเติบโตของ GDP ปี 2024 สิงคโปร์ประเมินการเติบโตไว้ที่ 1-3% โดยแนวโน้มอุปสงค์ภายนอกของสิงคโปร์ในปี 2024 ส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“ภาคการผลิตและการค้าที่เกี่ยวข้องกับสิงคโปร์คาดว่าจะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของความต้องการการเดินทางทางอากาศและการท่องเที่ยวจะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและการบินของสิงคโปร์”
ภาพ: Graham Denholm / TAS24 via Getty Images
อ้างอิง: