สิงคโปร์เชื่อ แม้คริปโตยังเสี่ยงสูง แต่มีศักยภาพเปลี่ยนอนาคตการเงินโลก

เฮงสวีเกียต (Heng Swee Keat) รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยระบุว่า แม้สินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง แต่คริปโตเคอร์เรนซีก็มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของการเงินของประเทศ

ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นระหว่างที่เฮงเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียเทค x สิงคโปร์ 2022 (Asia Tech x Singapore 2022 Summit) โดยเฮงย้ำว่า ต้องปรับกฎของสิงคโปร์ต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่ากฎระเบียบยังคงอำนวยความสะดวกด้านนวัตกรรม และยังจัดการกับความเสี่ยงที่สำคัญที่ทรัพย์สินดิจิทัลทำให้เกิดขึ้นมา

เฮงเน้นย้ำว่า ที่ผ่านมาธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้เตือนประชาชนเกี่ยวกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่างสม่ำเสมอ ท่ามกลางขั้นตอนในการจำกัดการส่งเสริมคริปโตให้กับประชาชนทั่วไปในช่วงต้นปี 2022

ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์แนะว่า นักลงทุนรายย่อยที่ทุนไม่หนาพอควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในคริปโต โดยคำแนะนำครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่นักลงทุนจำนวนมากประสบความสูญเสีย โดยบางรายสูญเงินออมทั้งชีวิตในการล่มสลายของ TerraUSD และ LUNA เมื่อไม่นานมานี้ จนก่อให้เกิดผลกระทบต่อ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ

นอกจากนี้ เฮงยังตั้งข้อสังเกตว่าระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลประกอบด้วยบริการทั้งหมดนอกเหนือจากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และเสริมว่าสิงคโปร์ยังคงกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกับบล็อกเชนและผู้เล่นสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อส่งเสริมนวัตกรรม และสร้างความไว้วางใจในภาคส่วนนี้

ขณะเดียวกัน ทางด้าน Fidelity Digital Assets แผนกสินทรัพย์ดิจิทัลของ Fidelity Investments วางแผนที่จะเพิ่มการจ้างงานขึ้นเป็น 2 เท่าในปีนี้ เพื่อเพิ่มกำลังคนสำหรับการให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตที่มีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบัน Fidelity Digital Assets มีพนักงานเกือบ 200 คน ได้เริ่มประกาศรับสมัครพนักงานใหม่เข้ามาทำงานในบริษัทอีก 110 คน โดยเป็นตำแหน่งด้านการให้บริการลูกค้า เทคโนโลยี และการดำเนินงาน ซึ่งจะเน้นที่สินทรัพย์ดิจิทัลอื่น นอกเหนือจาก Bitcoin

ทอม เจสซอป (Tom Jessop) ประธานของ Fidelity Digital Assets กล่าวว่า ในขณะที่ความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและตลาดมีการพัฒนา บริษัทจะยังคงขยายความพยายามในการจ้างงานของบริษัทต่อไป

เมื่อเดือนที่แล้ว Fidelity Investments กลายเป็นผู้ให้บริการแผนเกษียณอายุรายใหญ่รายแรกในสหรัฐอเมริกา ที่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปจัดสรรเงินออมส่วนหนึ่งเป็น Bitcoin ผ่านแผนการลงทุนเพื่อการเกษียณ 401(k)

ข่าวการจ้างงานครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่อุตสาหกรรมคริปโตประสบปัญหาครั้งใหญ่หลังจากการล่มสลายของ Stablecoin TerraUSD โดย Stablecoin ถือเป็นโทเคนดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับมูลค่าของสินทรัพย์แบบดั้งเดิม

ปัจจุบันราคา Bitcoin มีการซื้อขายล่าสุดที่ 31,594 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงมากกว่าครึ่งจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2021

นอกจากนี้ ความพ่ายแพ้ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้เป็นปัจจัยขัดขวางการลงทุนภาคเอกชนแต่อย่างใด โดย Babel Finance ผู้ให้กู้คริปโตในฮ่องกงและผู้จัดการสินทรัพย์ระดมทุนได้ 80 ล้านดอลลาร์ เมื่อมีการประเมินมูลค่าบริษัทได้ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ Andreessen Horowitz บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนสามารถระดมทุนได้ 4.5 พันล้านดอลลาร์ สำหรับกองทุนสกุลเงินดิจิทัลกองที่ 4 ของบริษัท

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP