วันนี้ (30 มีนาคม) บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตในเครือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศมาตรการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ของโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด โดยจะหยุดทำการโรงแรมและรีสอร์ตในประเทศไทย มัลดีฟส์ ฟิจิ มอริเชียส และสหราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า “การหยุดทำการชั่วคราวครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส และเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของผู้เข้าพักและพนักงานทุกคน ในขณะเดียวกันก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง ทุกโรงแรมจะร่วมมือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขของแต่ละประเทศเพื่อดำเนินมาตรการป้องกันอื่นๆ หากสถานการณ์เปลี่ยนไป”
ทั้งนี้โรงแรมทั้ง 4 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย, โรงแรมพีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท, โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท และโรงแรมเอาท์ริกเกอร์ เกาะสมุย บีช รีสอร์ท จะหยุดทำการชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน 2563
ส่วนในมหาสมุทรอินเดีย ธุรกิจทั้งหมดในมัลดีฟส์ รวมถึงโครงการครอสโรดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) จะหยุดทำการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 โดยกำหนดเปิดทำการจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ส่วนในฟิจิและมอริเชียสได้เตรียมความพร้อมในการหยุดทำการรีสอร์ตทั้ง 3 แห่งชั่วคราว
ในสหราชอาณาจักร SHR มีโรงแรม 29 แห่ง ขณะนี้โรงแรมเกือบทั้งหมดได้หยุดทำการชั่วคราวแล้วจนถึงสิ้นเดือนเมษายน ยกเว้นโรงแรม 3 แห่ง
ในช่วงที่โรงแรมหยุดทำการชั่วคราว บริษัทฯ ยังคงว่าจ้างพนักงานตามอัตรากำลังคนเดิม พร้อมทั้งแนะนำให้เก็บตัวอยู่ในบ้านและหลีกเลี่ยงการเดินทางตามคำแนะนำของรัฐบาลในแต่ละประเทศ
ส่วนพนักงานในรีสอร์ตที่ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ เนื่องจากการปิดพรมแดนหรือห้ามเดินทางในสถานการณ์การระบาดของโรค จะยังคงพักอยู่ในโรงแรม โดยบริษัทฯ มีมาตรการป้องกันด้านสุขอนามัยเพิ่มเติมที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของรัฐ เพื่อให้พนักงานปฏิบัติตาม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า