วานนี้ (27 มีนาคม) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางถึงประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมี อับดุลมายิด อัลราชูดีย์ รัฐมนตรีช่วยดูแลกิจการแรงงาน กระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคม พร้อมด้วย สธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปทูต ณ กรุงริยาด ให้การต้อนรับ
โดยสุชาติกล่าวว่า ในวันนี้ตนได้นำคณะผู้บริหารของกระทรวงแรงงานมายังกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อเตรียมเข้าร่วมพิธีลงนามความตกลงด้านแรงงานในวันที่ 28 มีนาคม 2565 เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น
จากนั้นสุชาติและคณะ ยังได้ตรวจเยี่ยมและพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานไทย ณ กรุงริยาด รวมทั้งหารือข้อราชการกับสธน โดยกล่าวว่า ขอขอบคุณท่านอุปทูตที่ให้การดูแลอัครราชทูต ที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่ของฝ่ายแรงงาน และให้คำแนะนำ สนับสนุน การปฏิบัติงานของฝ่ายแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน ที่ประจำการที่กรุงริยาด รวมถึงช่วยเหลือดูแลแรงงานไทยในซาอุดีอาระเบีย ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสม ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ช่วยผลักดันสนับสนุนให้การลงนามความตกลงด้านแรงงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว มุ่งหวังให้การจ้างแรงงานไทยเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านแรงงานของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทางการซาอุดีอาระเบียช่วยตรวจตราในการต่อต้านการค้ามนุษย์ ปกป้องคุ้มครองสิทธิของนายจ้างและแรงงาน รวมถึงการบังคับใช้กฎระเบียบ สัญญาจ้างงานระหว่างกันที่เป็นธรรม แรงงานได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย
สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงาน ปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ในซาอุดีอาระเบีย จำนวน 1,334 คน แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานส่วนใหญ่เป็นการแจ้งการเดินทางด้วยตนเอง นายจ้างพาไปทำงาน และ Re-entry ซึ่งตำแหน่งงานที่แรงงานไทยเดินทางไปทำงาน เช่น ช่างเชื่อม ช่างเทคนิค ช่างเครื่องยนต์ ผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน ผู้ควบคุมเครื่องจักร คนงานผลิตผลิตภัณฑ์ทั่วไป คนงานควบคุมเครื่องจักร ผู้ช่วยกุ๊ก แม่บ้าน เป็นต้น
สุชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกันนี้ยังได้พบปะหารือกับตัวแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพื่อตรวจเยี่ยมสภาพการจ้างงานในสถานประกอบการไซต์งานก่อสร้างของซาอุดีอาระเบีย ณ ไซต์งานก่อสร้างบริษัท Al Bawani-CP02 โดยได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างในประเด็นความต้องการแรงงานในกิจการก่อสร้างของซาอุดีอาระเบีย สภาพเศรษฐกิจโดยรวม แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจก่อสร้างในอนาคต ตลอดจนแผนการลงทุนในโครงการก่อสร้างอื่นๆ ที่วางแผนไว้ ตลอดจนมาตรการดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในซาอุดีอาระเบียนั้น จะมี E-Contract Program ซึ่งเป็นการทำสัญญาจ้างอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรักษาสิทธิของลูกจ้าง และลดความขัดแย้งระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง
นอกจากนี้ ยังมีข้อริเริ่ม Labor Mobility Initiative ให้แรงงานเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น สร้างประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน รวมทั้งให้สอดรับกับความต้องการแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานภาคบริการ โรงแรม สุขภาพ และอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของทางการซาอุดีอาระเบีย และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับจุดเด่นด้านฝีมือของแรงงานไทย โดยเฉพาะแรงงานที่มีฝีมือและกึ่งฝีมือ รวมทั้งความขยัน อดทนที่เป็นเอกลักษณ์ของแรงงานไทย ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงความพร้อมในการทดสอบฝีมือแรงงาน และกระบวนการฝึกอบรมต่างๆ ให้แก่แรงงานไทย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางมาทำงานในซาอุดีอาระเบียอีกด้วย