Credit Suisse ประเมินตลาดหุ้นเอเชีย แนวโน้มเติบโตดีกว่าตลาดโลกในปีหน้า เนื่องจากคาดว่าทิศทางกำไรบริษัทจดทะเบียนที่จะเติบโตสูงทั่วทั้งภูมิภาค
โดย Credit Suisse คาดการณ์ผลตอบแทนจาก MSCI Asia ไม่รวมดัชนีญี่ปุ่น อยู่ที่ 19% (ในสกุลดอลลาร์สหรัฐ) ระหว่างนี้ถึงสิ้นปี 2564 เทียบกับผลตอบแทนตลาดหุ้นทั่วโลก 15%
“เอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) เป็นกลุ่มประเทศที่มีน้ำหนักการลงทุนจากเรามากกว่าหุ้นโลก” แดน ไฟน์แมน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นเอเชียแปซิฟิกของ Credit Suisse กล่าว ในการสัมมนาทางเว็บเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ไฟน์แมน กล่าวว่า การเติบโตของกำไรต่อหุ้น หรือ EPS ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการประเมินมูลค่าของบริษัท จะอยู่ในช่วงเติบโตสูงเป็นเวลา 3-5 ปีเป็นอย่างน้อยทั่วทั้งภูมิภาค โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกต่างๆ เช่น การรักษาเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการลดแรงกดดันด้านภาษี
นอกจากนี้ การส่งออกที่ดีขึ้น และค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นทั่วภูมิภาค จะสนับสนุนหุ้นในเอเชียได้รับแรงเข้าลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ
ชู ‘เกาหลีใต้’ โดดเด่น
ในบรรดาตลาดเอเชีย Credit Suisse ชอบเกาหลีใต้มากที่สุด โดยคาดการณ์ว่า EPS จะเติบโต 43% ในปี 2564 เนื่องจากหุ้นของเกาหลีมีราคาถูกกว่าคู่แข่งในเอเชียเหนือ อีกทั้งเกาหลีใต้เป็นที่ตั้งของผู้ผลิตชิป DRAM รายใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่ Credit Suisse ชอบ
ทั้งนี้ DRAM เป็นชิปหน่วยความจำ จัดเป็นเซมิคอนดักเตอร์ประเภทหนึ่งที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แล็ปท็อป และสมาร์ทโฟน
“ถ้าคุณดูตลาดเกาหลีและเศรษฐกิจของเกาหลีมันเป็นวัฏจักรมาก และหากคุณคาดหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว การลงทุนในเกาหลีจึงดีที่สุด” ไฟน์แมนกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีประเทศที่ Credit Suisse ชื่นชอบอีก คือ ฮ่องกง โดยมองถึงแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในภูมิภาค และมีความเสี่ยงต่ำที่สุดในการดำเนินนโยบายกดดันภาคอสังหาริมทรัพย์
ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีอสังหาริมทรัพย์และหุ้นธนาคารจำนวนมาก เป็นสองกลุ่มที่ Credit Suisse ชื่นชอบเป็นพิเศษ
ประเทศจีน ด้วยปัจจัยที่เอื้ออำนวยค่อนข้างมาก เช่น เงินหยวนของจีนที่แข็งค่าขึ้น การรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีไบเดน และการฟื้นตัวของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ส่วนประเทศไทย ซึ่งน่าจะเป็นตลาดหุ้นที่พลิกฟื้นมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2564
เลือก ‘อสังหาฯ และธนาคาร’ กลุ่มเด่น
Credit Suisse ชื่นชอบกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวในบางประเทศโดยเฉพาะฮ่องกง ซึ่งกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์อาจได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ต่ำ
รวมถึงกลุ่มธนาคารในภูมิภาคซึ่งมีราคาถูกมาก และจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ในภูมิภาคนี้จะขยับขึ้นจนใกล้เต็มมูลค่า หรือใกล้เคียงกับหุ้นแบงก์ทั่วโลก
“ส่วนตัวยังเชื่อว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ในภูมิภาคเอเชียจะปรับขึ้นได้อีก แม้ว่าที่ผ่านมาจะขึ้นมาเยอะพอสมควร” ไฟน์แมนกล่าวปิดท้าย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: