“โตขึ้นอยากเป็นอะไร?”
การเตรียมพร้อมและฝึกทักษะที่จำเป็นในการใช้ชีวิตให้พวกเขาตั้งแต่ยังเด็กสำคัญจริงหรือ
คำถามนี้เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเป็นทั้งผู้ตั้งคำถาม และโดนตั้งคำถามด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ยังเด็กไปจนถึงรั้วมมหาวิทยาลัย เชื่อว่าเด็กๆ ทุกคนต่างมีคำตอบที่แตกต่างกันออกไป หรือบางคนอาจจะยังเกาหัวให้คำถามนี้ เพราะหลายคนก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ว่าจริงๆ แล้วโตขึ้นเราอยากเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดที่พาให้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่ต้องการนั่นคือการเตรียมพร้อมและการวางรากฐานของการศึกษาที่ดีนั่นเอง
ซึ่งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส เองก็ได้มองเห็นถึงความสำคัญของการวางรากฐานที่เหมาะสม และได้รับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในอนาคต ตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์แบบมีเหตุและผล การคิดอย่างสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาต่างๆ และทักษะการทำงานเป็นทีม จึงได้ประกาศเปิดตัวหลักสูตร
‘Design, Engineer, Construct’ (DEC) ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้านการออกแบบ วิศวกรรมและการสร้างสรรค์โครงการ โดยเป็นหลักสูตรที่คิดค้นต่อยอดให้เหมาะกับเด็กวัยแรกเรียน ซึ่งเด็กๆ จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และยังเป็นโรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษาแห่งแรกของโลก และเป็นโรงเรียนแห่งแรกของไทย ที่นำหลักสูตร DEC มาใช้ในการเรียนการสอนสำหรับเด็กวัยแรกเรียน อีกด้วย
อแมนดา เดนนิสสัน ครูใหญ่ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส
อแมนดา เดนนิสสัน ครูใหญ่ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส กล่าวว่า “โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาการและศักยภาพของเด็กอย่างรอบด้าน และเริ่มตั้งแต่วัยแรกเรียนเพราะเด็กๆ จะซึมซับได้ดีกว่า เราจึงได้นำหลักสูตร DEC จากประเทศอังกฤษ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก มาใช้ในการเรียนการสอนสำหรับเด็กอนุบาลและประถมศึกษาเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและในโลก เป็นการเปิดมิติใหม่ทางการเรียนรู้ให้แก่เด็กนักเรียน และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับเส้นทางอาชีพในสายงานสถาปนิก วิศวกรรมศาสตร์ และการสร้างสรรค์โครงการ โดยเน้นการลงมือปฏิบัติโครงการที่มีความยั่งยืน (Sustainable Building Project) และการทำเวิร์กช็อป (Workshop) ควบคู่ไปกับการเรียนรู้วิธีนำคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน และการต่อยอดทักษะด้านภาษา การอ่านและการเขียน ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการทำรายงาน (Report) การนำเสนอ (Presentation) และการโต้ตอบ (Feedback) พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สำรวจความคิดที่ท้าทายบริบททางสังคม ผ่านตัวอย่างและโครงการที่นำมาสอนภายใต้สภาพแวดล้อมที่กำหนดขึ้น ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาให้กับเด็กๆ
“บุคลากรครูผู้สอนเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการนำหลักสูตรคุณภาพมาใช้ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เราจึงได้แต่งตั้ง เคที่ ฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นครูผู้ชำนาญการด้านการออกแบบและเทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษ มารับตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาการออกแบบและนวัตกรรมเทคโนโลยี (Design and Technology Innovation Leader) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาสำคัญสำหรับนักเรียนตั้งแต่ชั้น Year 1 ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส และการนำหลักสูตร DEC มาใช้จะทำให้การเรียนการสอนด้านการออกแบบและเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จับต้องได้ และมีความเชื่อมโยงกับผู้เรียนมากขึ้น” อแมนดา กล่าวเสริม
เคที่ ฮอลแลนด์ หัวหน้าภาควิชาการออกแบบและนวัตกรรมเทคโนโลยี และดูแลรับผิดชอบหลักสูตร DEC ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส
เคที่ ฮอลแลนด์ หัวหน้าภาควิชาการออกแบบและนวัตกรรมเทคโนโลยี (Design and Technology Innovation Leader) ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบหลักสูตร DEC ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส กล่าวว่า “หลักสูตร DEC จะช่วยให้เด็กนักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มากขึ้นจากการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวเนื่องกับการออกแบบและเทคโนโลยีตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ประยุกต์ (Application of Science and Mathematics) การคิดเชิงวิเคราะห์และสร้างสรรค์ (Creative and Logical Thinking) การแก้ปัญหา (Problem Solving) การทำงานเป็นทีม (Teamwork) ความกล้าเสี่ยง (Risk-Taking) และความสามารถในการปรับตัว (Resilience) เป็นต้น ซึ่งหลักสูตร DEC จะช่วยพัฒนารูปแบบการคิด ซึ่งจะส่งผลต่อไปถึงพฤติกรรมและการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน ดังนั้นการนำหลักสูตรดังกล่าวนี้มาใช้ในการเรียนการสอนเด็กตั้งแต่วัยแรกเรียนย่อมจะมีประโยชน์ต่อพัฒนาการมากที่สุด”
ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของการเติบโต (Transitional Year) ก็เป็นช่วงวัยที่สำคัญของเด็กด้วยเช่นกัน
อแมนด้า กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนั้น โชรส์เบอรียังให้ความสำคัญอย่างมากกับช่วงอายุ 7-8 ปี หรือชั้น Year 3 เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีความสำคัญ (Key Stage) อีกช่วงหนึ่ง เพราะถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโต (Transitional Year) ดังนั้นรูปแบบการเรียนการสอนสำหรับเด็กชั้นปีนี้ โชรส์เบอรีได้เน้นให้มีความเฉพาะทางและเป็นระเบียบแบบแผนมากขึ้น เพื่อให้เด็กๆ ได้นำทักษะและความรู้ที่ได้จากการเรียนในชั้นปีก่อนๆ มาใช้ในการพัฒนาต่อยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) การสร้างแรงบันดาลใจ (Motivation) การคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) และการดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น (Independence)
ซึ่ง Year 3 ที่โชรส์เบอรี เด็กๆ จะได้เริ่มสวมเสื้อเชิ้ต ผูกเนกไท และใส่รองเท้านักเรียนที่เหมาะสมมาเรียนหนังสือ เริ่มย้ายห้องเรียนจากชั้นล่างขึ้นไปอยู่ชั้นบน เริ่มได้ใช้พื้นที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงเรียนมากขึ้น และเริ่มได้รับมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันที่ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้และสัมผัสได้ถึงการเติบโตขึ้น (Sense of Maturity) และมากไปกว่านั้น ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์และโอกาสทางการเรียนรู้ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีความพร้อมและประสบความสำเร็จในการศึกษาระดับที่สูงขึ้นในอนาคต”
ทักษะด้านภาษาที่ควรเตรียมพร้อมก่อนอายุ 10 ปี
“จากการศึกษาวิจัยพบว่า หากต้องการพัฒนาทักษะด้านภาษาของบุตรหลานให้ดีเทียบเท่ากับเจ้าของภาษานั้นๆ ควรเริ่มต้นก่อนอายุ 10 ปี ซึ่งตรงกับแนวทางการเรียนการสอนที่ ซิตี้ แคมปัส ซึ่งให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ โดยครูผู้สอนจากประเทศอังกฤษโดยตรง และการผนวกหลักสูตรภาษาไทยและภาษาจีนกลางที่ดีที่สุดเข้าไปในกระบวนการเรียนการสอนตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อให้มั่นใจว่า นักเรียนจะมีทักษะภาษาอังกฤษที่เป็นเลิศ และสามารถใช้ภาษาไทยและภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่วแตกฉาน ทั้งทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนชั้น Year 3 ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ด้านภาษา จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและภาษาจีนกลางมาร่วมวางแผนการเรียนการสอนกับคุณครูประจำชั้นเรียนอย่างใกล้ชิด สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเริ่มต้นศึกษาในหลักสูตรนานาชาติตั้งแต่อายุยังน้อย แทนที่จะรอจนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ซึ่งอาจจะสายเกินไปสำหรับการสร้างพัฒนาการที่สมบูรณ์” อแมนดา กล่าวทิ้งท้าย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
- สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม Open House ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส เพื่อเยี่ยมชมบรรยากาศการเรียนการสอน และพูดคุยกับครูใหญ่รวมทั้งบุคลากรอย่างใกล้ชิดได้ทางเว็บไซต์ www.shrewsbury.ac.th/city