การประท้วงต้านรัฐประหารในเมียนมายังคงดำเนินต่อเนื่องในวันนี้ (8 มีนาคม) ขณะที่ร้านค้า ธนาคาร และโรงงานหลายแห่งในนครย่างกุ้งและหลายเมืองปิดทำการ หลังสหภาพการค้ากลุ่มใหญ่นัดหยุดงานเพื่อชัตดาวน์เศรษฐกิจกดดันรัฐบาลทหาร
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า มีสหภาพการค้าอย่างน้อย 9 กลุ่ม ครอบคลุมเซกเตอร์อุตสาหกรรมก่อสร้าง เกษตรกรรม และการผลิต ได้เรียกร้องให้ประชาชนเมียนมาทุกคนหยุดงาน เพื่อกดดันให้กองทัพเมียนมาคืนอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งปล่อยตัว ออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) และผู้นำคนอื่นๆ ที่ยังถูกควบคุมตัว
แถลงการณ์ร่วมจากสหภาพหลายกลุ่มระบุว่า การปล่อยให้ธุรกิจและเศรษฐกิจดำเนินกิจกรรมต่อไปได้จะช่วยให้กองทัพมีพลังในการกดขี่ประชาชนเมียนมาต่อไปได้ ดังนั้น “ถึงเวลาแล้วที่จะดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องประชาธิปไตยของเราตอนนี้”
ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ศูนย์การค้าสำคัญหลายแห่งปิดให้บริการในวันนี้ ขณะที่โรงงานหลายแห่งไม่มีคนทำงาน มีเพียงร้านน้ำชาขนาดเล็กบางร้านที่ยังเปิดให้บริการอยู่
ถึงแม้ที่ผ่านมาทหารและตำรวจจะใช้กระสุนจริงในการปราบปรามผู้ชุมนุมจนมีผู้ประท้วงเสียชีวิตไปแล้วหลายสิบคน แต่ยังคงไม่อาจหยุดยั้งชาวเมียนมาจำนวนมากให้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารได้
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ากองกำลังความมั่นคงเมียนมาได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเตือนผู้ประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการตรวจค้นรถยนต์ในเมืองย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อสกัดไม่ให้ผู้ประท้วงรวมตัวกันได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงจำนวนมากยังคงเดินหน้าชุมนุมในเมืองย่างกุ้ง รวมถึงมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 เช่นเดียวกับเมืองทวาย ซึ่งกลุ่มติดอาวุธสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ได้ออกมาปกป้องกลุ่มผู้ประท้วงด้วย
ส่วนในบางพื้นที่ ผู้ชุมนุมได้โบกธงที่ทำจากโสร่งหรือผ้าถุงของผู้หญิง หรือแขวนพาดไว้ตามถนนเนื่องในวันสตรีสากลด้วย ขณะเดียวกันชาวเมียนมายังถือเอาความเชื่อที่ว่า การเดินลอดใต้โสร่งถือเป็นโชคร้ายสำหรับผู้ชาย โดยหวังว่าจะช่วยชะลอตำรวจและทหารได้
ภาพ: Anusak Laowilas / NurPhoto via Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: