×

เมื่อ เชย์นิส Miss Universe 2023 อาจกลายเป็น ‘สัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ’ ในนิการากัว

29.11.2023
  • LOADING...
Sheynnis Palacios

เชย์นิส ปาลาซิโอส Miss Universe 2023 จากนิการากัว อาจยังต้องลุ้นว่าเธอจะสามารถกลับเข้าประเทศบ้านเกิด เพื่อร่วมเฉลิมฉลองกับครอบครัวและแฟนๆ นางงามชาวนิการากัวได้หรือไม่ หลังจากที่เธอเป็นสาวงามคนแรกจากนิการากัวที่คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลปีนี้มาครองได้สำเร็จ

 

สัญญาณที่เริ่มส่อเค้าว่าเชย์นิสอาจไม่ได้รับอนุญาตจากทางการนิการากัวให้เดินทางกลับเข้าประเทศได้นั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ กาเรน เซเลเบรตติ ผู้ถือครองลิขสิทธิ์ Miss Universe นิการากัว และลูกสาวของเธอถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานนานาชาติออกุสโต ซี. ซานดิโน ในกรุงมานากัวของนิการากัว เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับไปยังเม็กซิโก ประเทศต้นทางที่เธอแยกกับเชย์นิส หลังเสร็จสิ้นภารกิจโปรโมตการประกวด Miss Universe 2024 ที่เม็กซิโกจะเป็นเจ้าภาพในปีถัดไป 

 

จนทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ที่เชย์นิสก็อาจไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเผด็จการให้เดินทางกลับเข้าประเทศนิการากัวเช่นเดียวกับเซเลเบรตติ

 

นางงามจักรวาล กับ ‘สัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ’ ในนิการากัว

 

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายฝ่ายกังวลใจว่า เชย์นิสอาจไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับเข้าประเทศนั้น เนื่องจากว่าขณะที่เธอเป็นนักศึกษาในช่วงราวปี 2018 เธอเคยเข้าร่วมขบวนประท้วงรัฐบาลเผด็จการภายใต้การนำของประธานาธิบดีดานิเอล ออร์เตกา พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนแนวทางประชาธิปไตย โดยรัฐบาลเผด็จการของออร์เตกาเคยประกาศยึดและปิดทำการมหาวิทยาลัยอเมริกากลาง (UCA) ในกรุงมานากัว ที่เชย์นิสศึกษาเล่าเรียนอยู่ในขณะนั้นชั่วคราว หลังจากมองว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการประท้วงต่อต้านระบบเผด็จการของออร์เตกาในช่วงเวลานั้น

 

ประกอบกับสีของชุดราตรีในการแข่งขันรอบไฟนอลบนเวที Miss Universe 2023 ของเชย์นิส ได้รับการตีความว่าสื่อถึงสีของธงชาตินิการากัว ซึ่งผู้นำเผด็จการคนปัจจุบันมองว่า สีและธงชาติดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายต่อต้านและพรรคฝ่ายค้าน ในขณะที่ธงสีแดง-ดำของกลุ่มซานดินิสตา (Sandinista) จะเป็นธงที่สื่อถึงออร์เตกา และระบอบเผด็จการของเขาโดยตรง

 

ชัยชนะของเชย์นิสทำให้บรรดาพรรคฝ่ายค้านในนิการากัวดีใจอย่างมาก ขณะที่รัฐบาลเผด็จการของออร์เตกาเองก็เคยแสดงความยินดีกับเชย์นิส ที่สามารถคว้าตำแหน่ง Miss Universe 2023 มาครองได้สำเร็จ 

 

อย่างไรก็ตามภายหลังรัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนท่าที หลังจากที่รู้ว่าเชย์นิสเคยเข้าร่วมขบวนประท้วงรัฐบาลเผด็จการ เธอจึงกลายเป็น ‘สัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ’ ในนิการากัว และออร์เตกาเองก็อาจเริ่มหวั่นใจว่า การกลับมาของเชย์นิสในฐานะ นางงามจักรวาลคนแรกของนิการากัว จะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการยุยงปลุกปั่น และนำไปสู่การก่อรัฐประหาร เพื่อโค่นล้มออร์เตกาในท้ายที่สุด

 

THE STANDARD สอบถามความเห็น ผศ.ดร.เชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองลาตินอเมริกา ถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเผด็จการในนิการากัว รวมถึงทรรศนะที่เกี่ยวข้องกับนางงามจักรวาลและการเมือง 

 

Daniel Ortega

 

การดำรงอยู่ของ ‘เผด็จการ’ ในนิการากัว

 

ผศ.ดร.เชาวฤทธิ์ กล่าวว่า “ดานิเอล ออร์เตกา เดิมเป็นกบฏฝ่ายซ้าย หรือกลุ่มซานดินิสตา ที่ต่อสู้กับ อานัสตาซิโอ ซาโมซา เดเบย์เล ซึ่งเป็นผู้นำเผด็จการฝ่ายขวา และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ซาโมซาหนีไป ออร์เตกาก็ขึ้นเป็นประธานกลุ่มสมานฉันท์ที่พยายามรวมทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน ก่อนที่เขาจะชนะการเลือกตั้งในช่วงปลายปี 1984 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีนิการากัวเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปี 1985 

 

“จนกระทั่งปี 2007 เขาชนะการเลือกตั้ง และได้กลับขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีนิการากัวอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสเอนเอียงที่หันไปหาแนวคิดแบบสังคมนิยมมากขึ้น หลายประเทศในลาตินอเมริกาในช่วงเวลานั้นจึงมีผู้นำหัวเอียงซ้ายจำนวนไม่น้อย เช่น ฮูโก ชาเวซ ในเวเนซุเอลา และ ลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ในบราซิล

 

“ต่อมาในช่วงทศวรรษ 2010-2020 เป็นช่วงที่กระแสฝ่ายซ้ายอ่อนแอลง เกิดการตีโต้กลับของกระแสฝ่ายขวา เราจึงได้เห็นชัยชนะของผู้นำฝ่ายขวาอย่างโบลโซนารูของบราซิล หรือแม้แต่โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ก่อนที่กระแสดูเหมือนจะสวิงกลับมาที่ฝ่ายซ้ายอีกครั้งหลังปี 2020 ดังจะเห็นได้จากชัยชนะของลูลาเหนือโบลโซนารูในบราซิล รวมถึงชัยชนะของกุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองโคลอมเบีย 

 

“เราจะเห็นการขึ้นลงของผู้นำเมื่ออยู่ครบตามวาระ แต่ไม่ใช่กับกรณีของออร์เตกา ซึ่งเขาพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองอยู่ในอำนาจให้ยาวนานยิ่งขึ้น” ซึ่ง ผศ.ดร.เชาวฤทธิ์อธิบายว่า โดยส่วนมากผู้นำในลาตินอเมริกามักจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันไม่เกิด 2 วาระ วาระละไม่เกิน 4-5 ปี แต่ออร์เตกาครองอำนาจนำในนิการากัวมานานกว่า 16 ปีแล้ว และอ้างความชอบธรรมว่า ตนเองก้าวขึ้นสู่อำนาจด้วยวิธีการที่เป็นประชาธิปไตย จากการชนะเลือกตั้งติดต่อกันล่าสุดถึง 4 สมัย

 

ผศ.ดร.เชาวฤทธิ์ยังระบุอีกว่า “ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ออร์เตกาปกครองประเทศด้วยความหวาดกลัว เขาเป็นเผด็จการมากยิ่งขึ้น กำจัดศัตรูทางการเมืองและผู้เห็นต่างไปเป็นจำนวนมาก เนรเทศให้ออกไปอยู่ต่างประเทศ หรือแม้แต่อดีตรองประธานาธิบดีของเขาเองก็โดนเขาสั่งจับเช่นเดียวกัน เขาพยายามที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด ออร์เตกาจึงเป็นซากปรักหักพังของเผด็จการที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในลาตินอเมริกา”

 

นางงามจักรวาล กับการสั่นคลอนอำนาจออร์เตกา

 

ผศ.ดร.เชาวฤทธิ์แสดงความเห็นว่า “การได้รับตำแหน่ง Miss Universe 2023 ของเชย์นิส อาจไม่ได้สั่นคลอนอำนาจของออร์เตกามากอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้ เพราะเป้าหมายการจัดประกวดนางงามจักรวาลในปีนี้ มุ่งเน้นไปที่การสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับประเทศเจ้าภาพอย่างเอลซัลวาดอร์ ที่ทุ่มเม็ดเงินกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดนางงามจักรวาลในปีนี้ หลังจากเห็น ‘สิงคโปร์โมเดล’ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเป็นเจ้าภาพจัดประกวดนางงามจักรวาลเมื่อปี 1987 โดยผู้นำเอลซัลวาดอร์ต้องการประกาศให้โลกรู้ว่า สถานการณ์ความไม่สงบในเอลซัลวาดอร์ยุติลงแล้ว และเป็นมิตรต่อนักลงทุนชาวต่างชาติ เราจึงเห็นว่าคำถามในการประกวดปีนี้อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองอย่างเข้มข้นเหมือนเมื่อครั้งที่ผ่านๆ มา

 

“ประกอบกับเจ้าของลิขสิทธิ์คนใหม่ของไทยอย่าง แอน จักรพงษ์ ไม่น่าจะต้องการให้แพลตฟอร์มการประกวดนางงามนี้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางการเมืองมากขนาดนั้น เพราะถ้าหากเชย์นิสเคลื่อนไหวในประเด็นทางการเมืองมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรและผลประโยชน์ทางธุรกิจ และต้องไม่ลืมว่าลาตินอเมริกาเป็นตลาดลูกค้าใหญ่ของวงการนางงาม ถ้าสมมติว่า Miss Universe เข้าไปแตะการเมืองในนิการากัว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ อาจถูกบอยคอต องค์กรก็อาจได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ซึ่งแตกต่างจากเจ้าของคนก่อนๆ อย่างในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ หรือยุค IMG ที่เป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์ก่อนหน้านี้” 

 

ผศ.ดร.เชาวฤทธิ์เชื่อว่า “เจ้าของเวทีทราบดีว่า ถ้าเลือกนิการากัวจะต้องไม่มีปัญหาตามมา เพราะถ้ามีก็คงไม่เลือก แม้การเลือกสาวงามจากนิการากัวให้เป็นผู้ครองมงกุฎนางงามจักรวาลในปีนี้ จะทำให้นิการากัวกลายเป็นประเทศที่ถูกจับตามอง และดานิเอล ออร์เตกาได้รับการรับรู้มากขึ้นในฐานะที่เป็นประธานาธิบดีเผด็จการ แต่ไม่ได้หมายความว่า บทบาทของนางงามจักรวาลหลังจากนี้ จะไปแตะการเมืองภายในของนิการากัวอย่างเข้มข้น” 

 

แฟ้มภาพ: (1) Jose Cabezas / Reuters

(2) Yamil Lage / Pool via Reuters

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X