ตั้งแต่มาตรการคลายล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกแรก เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร หรือจุดหมายปลายทางยอดนิยม ต่างปรากฏสัญลักษณ์ SHA ขึ้นมา เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักเดินทางว่าสถานที่แห่งนั้น สะอาด ปลอดภัยตามหลักสากล สามารถเยือนได้อย่างสะดวกใจ ภายใต้สถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่เราไม่รู้ว่าเชื้อโรคจะมาจ๊ะเอ๋กันเมื่อไร แต่สำหรับโครงการ Phuket Sandbox มาตรฐาน SHA กลับไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะทุกกิจกรรมในโปรเจกต์นี้ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงคนในประเทศอีกแล้ว แต่เป็นคนนอกประเทศ ที่ถึงแม้จะมีผลตรวจยืนยันว่าปราศจากเชื้อ แต่เราไม่อาจแน่ใจว่าเขาจะพกเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใดมาเป็นเพื่อนบ้าง มาตรฐาน SHA ที่เราเห็นจนคุ้นชิน จึงอัปเกรดเป็น SHA+ พร้อมเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ทำงานสอดรับกับศูนย์บัญชาการ Phuket Sandbox
SHA และ SHA+ คืออะไร ต่างกันอย่างไร
SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration มีชื่อเต็มในภาษาไทยว่า โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เป็นโครงการความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการประเทศไทย
โดยกิจการที่สามารถขอรับมาตรฐาน SHA ได้ มี 10 หมวด ได้แก่ 1. ภัตตาคาร/ร้านอาหาร 2. โรงแรม/ที่พัก และสถานที่จัดประชุม 3. นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว 4. ยานพาหนะ 5. บริษัทนำเที่ยว 6. สุขภาพและความงาม 7. ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า 8. กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว 9. โรงละคร โรงมหรสพและการจัดกิจกรรม และ 10. ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ
ส่วน SHA+ คือมาตรฐาน SHA ดั้งเดิม ที่เพิ่มเงื่อนไขเข้าไปว่า พนักงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 แล้วไม่ต่ำกว่า 70% ของทั้งองค์กร และ 100% กับพนักงานหน้าด่าน (Frontline) ที่ต้องพบเจอแขกทุกวัน
SHA+ = SHA + พนักงานรับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 70%
ความสำคัญของ SHA+ กับ Phuket Sandbox
สำหรับผู้ประกอบการที่พักที่ได้มาตรฐาน SHA+ จะมีตำแหน่ง SHA+ Manager บวกเพิ่มด้วย ทำหน้าที่ตรวจสอบ ดูแลแขกในโครงการ Phuket Sandbox และรายงานผลต่อศูนย์ปฏิบัติการว่าแขกทุกคนยังคงพักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต และไม่แอบเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่นก่อนครบกำหนด 14 วัน โดยแขกต้องแสดงตนแก่ SHA+ Manager ทุกวันตามกำหนด
นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ติดต่อประสานงานจัดหาโรงพยาบาลเพื่อนำแขกส่งตรวจเชื้อโควิด-19 ทุกวันที่ 6-7 และ 13 ตามไทม์ไลน์ 14 วัน และประสานงานดูแลแขกในกรณีที่แขกติดเชื้อเช่นกัน
ฉะนั้น SHA+ จึงสำคัญต่อโครงการ Phuket Sandbox ทั้งในแง่ของเครื่องหมายรับรองแสดงความปลอดภัย สร้างความมั่นใจต่อแขกและพนักงาน ทั้งยังทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐและศูนย์ปฏิบัติงานอีกด้วย