วันนี้ (7 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการแบ่งงานรัฐมนตรีว่า ต้องขอบคุณรัฐมนตรีชุดเก่าที่ได้ทำงานอย่างเคร่งครัด และขอให้รัฐมนตรีใหม่ไปศึกษานโยบายที่รัฐมนตรีคนเก่าได้ทำไว้ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้ดำเนินงานต่อไปอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลคุมกระทรวงนั้น เศรษฐากล่าวว่า ขออย่าให้มองเช่นนั้น ขอให้มองที่ผลงานเป็นหลัก ไม่ใช่การยึดกระทรวง ทุกคนทำงานเพื่อประชาชน อย่าไปมองว่าเป็นการยึดกระทรวงหรือยึดอำนาจ หากมีการบริหารจัดการอะไรที่บริหารจัดการได้ หรือแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ ก็เป็นจุดมุ่งหมายแนวทางหลักในการแบ่งงาน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงคัดค้านการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เศรษฐากล่าวว่า เรื่องค่าแรงขั้นต่ำนั้นตนเองมีความชัดเจน ตนเป็นห่วงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนฐานราก ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เมื่อ 10 ปีที่แล้วขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แต่วันนี้ขึ้นมาเพียง 30-40 บาท และขึ้นมาเพียง 10% เท่านั้น จึงขอชื่นชมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันเรื่องนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสื่อโซเชียลในเมียนมารายงานข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาว่า ตนเองไม่ทราบว่ามีการไปเจรจาหรือไม่ แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายความมั่นคง มีการพูดคุยกันทุกกลุ่มอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องความลับและเราไม่อยากเปิดเผย
เศรษฐากล่าวว่า ตนเองยืนยันในหลักการเดิม ประเทศไทยมีความชอบธรรมในการเป็นผู้นำการเจรจา เพราะเรามีเขตชายแดนติดกับเมียนมาเยอะ ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามแนวทางที่อาเซียนมีมา และเรื่องแนวทางการช่วยเหลือตามสิทธิมนุษยธรรม
“ผมไม่ทราบมีการพูดคุยหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าทุกท่านมีความหวังดีต่อประเทศ” เศรษฐากล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อสกัดกั้นการรัฐประหาร ว่ายังไม่ได้พูดคุยกับ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากวันนี้ท่านติดภารกิจที่มาเลเซีย เพราะวันที่ลงพื้นที่ที่จังหวัดมหาสารคามและร้อยเอ็ดพูดคุยกันแค่เรื่องปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ภัยแล้ง และพื้นที่ทำกินของประชาชน ซึ่งได้สั่งการไปหมดแล้ว ขณะนี้จึงยังไม่เห็นร่างแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหมฯ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีสนับสนุนการแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหมฯ ที่สกัดกั้นการทำรัฐประหารใช่หรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า อะไรที่เป็นการกระทำที่ไม่ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตนเองสนับสนุนเต็มที่ แต่ตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่เชื่อว่าส่วนตัวเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกองทัพ และเชื่อว่ากองทัพก็มีความตั้งใจที่ดีที่จะช่วยเหลือประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ได้สัมผัสกับผู้นำเหล่าทัพเป็นนายทหารที่มีความคิดรุ่นใหม่ พร้อมที่จะยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้ได้ใช่หรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ตนเองไม่แน่ใจว่าความรุ่นใหม่-รุ่นเก่าคืออะไร แต่เชื่อว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 4 เหล่าทัพ และปลัดกระทรวงกลาโหมที่มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดนั้น ทุกท่านเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก