ความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎเกณฑ์และการตรวจสอบธุรกรรมการขายชอร์ต (Short Selling) ในตลาดหุ้นไทย ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตัดสินใจปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อป้องกันและช่วยให้การตรวจสอบธุรกรรมที่เป็น Naked Short Selling มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น
รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การดำเนินการรวมทั้งการปรับปรุงกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่
- การประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อตรวจสอบการทำ Short Selling ทั้งหมด
โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีที่เรียกว่า Omnibus Account หรือบัญชีรวมผู้ลงทุนหลายรายโดยไม่เปิดเผยชื่อผู้ลงทุน ซึ่งในส่วนนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำงานร่วมกับ ก.ล.ต. เพื่อตรวจสอบว่าผู้ลงทุนที่แท้จริง (End Beneficiary) เบื้องหลังบัญชีเหล่านี้เป็นใครบ้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ประเด็นร้อนหุ้นไทย Naked Short Selling! ทำไมความสงสัยไม่คลี่คลาย และรายย่อยที่กำลังล่มสลาย?
- ก.ล.ต. จี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุตัวตนลูกค้าเบื้องหลัง Custodian และ Program Trading พร้อมเข้าตรวจระบบจับ Naked Short
“สาเหตุที่ต้องขอให้ ก.ล.ต. ช่วยเหลือ เพราะตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถสั่ง Custodian ได้โดยตรง แต่จะเป็นลักษณะของการขอความร่วมมือ ซึ่ง ก.ล.ต. เป็นสมาชิกขององค์กรคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (IOSCO) ซึ่งจะช่วยได้ในเรื่องของการขอข้อมูล”
- การส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทสมาชิก เช่น บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทที่ไม่ใช่สมาชิก รวมถึง Custodian ต่างประเทศ เพื่อขอให้ช่วยกันสอดส่องและดูแลให้การทำ Short Selling เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์
ในส่วนนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์ โดยกำหนดให้บริษัทสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการทำ Short Selling มาให้ภายใน 15 วัน หากไม่สามารถส่งหลักฐานมาได้ทันตามกำหนด จะสันนิษฐานไว้ก่อนว่าการทำ Short Selling ดังกล่าวเป็นการทำ Naked Short Selling ซึ่งจะทำให้บริษัทสมาชิกถูกลงโทษทางวินัย เช่น ตักเตือน ปรับเงิน หรือพักการซื้อ-ขาย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแต่ละกรณี
“ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขอให้โบรกเกอร์ส่งข้อมูลของลูกค้ามาให้ในกรณีที่ธุรกรรมน่าสงสัย แต่มักจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ตอนนี้เราจะให้เวลา 15 วันในการส่งข้อมูลมาพิสูจน์ ถ้าทำไม่ได้จะสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็น Naked Short Selling
“การตรวจสอบ Naked Short Selling โดยปกติแล้วจะดูข้อมูล ณ สิ้นวัน เพื่อตรวจสอบย้อนหลัง การป้องปรามตอนนี้คือการกำชับสมาชิกให้คุมเข้มไม่ให้ลูกค้าทำ Naked Short Selling ส่วนในแง่การตรวจสอบจะเป็นการตรวจสอบย้อนหลัง ซึ่งภาระการพิสูจน์จะตกอยู่กับโบรกเกอร์”
- การทบทวนความเป็นธรรมระหว่างนักลงทุนที่ซื้อ-ขายผ่าน Program Trading และนักลงทุนที่ไม่ได้ใช้ Program Trading
ในส่วนนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปรียบเทียบกับแนวปฏิบัติของตลาดต่างประเทศเพื่อพิจารณาความเหมาะสม รวมทั้งการนำข้อมูลการซื้อ-ขายของนักลงทุนแต่ละกลุ่มมาพิจารณาประกอบ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
- การตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อช่วยตรวจสอบและให้ข้อเสนอแนะในเรื่องการตรวจสอบ Naked Short Selling
คณะทำงานดังกล่าวจะประกอบด้วยตัวแทนจาก ก.ล.ต., ตัวแทนจากตลาดหลักทรัพย์ และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการประสานกับตัวแทนจากตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ (KRX) และตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq เพื่อมาร่วมพิจารณาว่ากฎเกณฑ์ในปัจจุบันยังมีช่องว่างอะไรที่ต้องปรับปรุงและดำเนินการเพิ่มเติม
นอกจากนี้รองรักษ์ยังเปิดเผยอีกว่า เมื่อวานนี้คณะกรรมการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดประชุมเป็นกรณีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าควรยกระดับมาตรการควบคุม Short Selling จาก Zero Plus Tick Rules มาเป็น Up Tick Rules หรือไม่
“ที่ประชุมมีความเห็นว่า การลดลงของดัชนีหุ้นไทยในปัจจุบันยังไม่ได้ผิดปกติเมื่อดูจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่น การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ หรือข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นการใช้มาตรการพิเศษจึงยังไม่จำเป็นในชั้นนี้”
อย่างไรก็ดี ตลาดหลักทรัพย์ฯ ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด และหากต้องใช้มาตรการพิเศษก็พร้อมจะดำเนินการอย่างเร่งด่วน
