จากงานแถลงสรุปภาพรวมภาวะ ตลาดหลักทรัพย์ ของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคาดหวังว่าจะเห็นกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาส 1 ปี 2567 ฟื้นตัวได้เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ที่ผ่านมา จากสัญญาณบวก 3 ด้านคือ การท่องเที่ยว การส่งออก และการใช้จ่ายของภาครัฐ
ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมานักลงทุนยังคงให้มูลค่าของหุ้นไทยในระดับ P/E 14-15 เท่า แต่สิ่งที่จะช่วยให้ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้คือกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่จะต้องฟื้นตัวกลับมาก่อน
จากตัวเลขกำไรของหุ้นไทยในไตรมาส 4 ที่สรุปและประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นสิ่งที่คาดเดาได้อยู่แล้วว่าไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไตรมาส 1 ปีนี้จะแย่ตาม
“เราเริ่มเห็น Indicator สำคัญอย่างการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง และการส่งออกเป็นบวกต่อเนื่อง 6 เดือนติดต่อกัน อีกตัวช่วยสำคัญคืองบประมาณภาครัฐน่าจะกลับมาเป็นปกติมากขึ้น ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป”
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ดัชนี SET ปรับตัวลดลงราว 2% มาอยู่ที่ 1,386 จุด จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 1,415 จุด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องเกือบ 3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ขายสุทธิราว 2 แสนล้านบาท
ด้าน ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า เม็ดเงินลงทุนจะเริ่มไหลกลับมาสู่ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) อีกครั้ง หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ เริ่มปรับลง แต่กำไรยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้หุ้นไทยฟื้นตัวได้
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนที่จะดึงดูดเงินทุนต่างชาติเข้ามามากขึ้น ผ่านการขยายฐานของนักลงทุนต่างชาติให้กว้างขึ้น อย่างล่าสุดคือการเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งที่ผ่านมาเป็นประเทศที่มีการค้าขายกับไทยพอสมควร แต่การลงทุนในตลาดหุ้นยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์คาดหวังว่าจะขยายฐานนักลงทุนในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมากขึ้นอีกด้วย
